1

ปี 2562

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร ประจำาปี 2562

การประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2563 ในวันที่ 11 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00-15.00 นาฬิกา ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชกำาหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 โดยมีรายละเอียดหนังสือนัดประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2563

2

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

คณะผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 6 (2559-2562)

นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา

นายประศักดิ์ บัณฑุนาค นายนพพร ลีปรีชานนท์

เสนอ ที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกรประจำาปี 2563 วันที่ 11 มิถุนายน 2563

ตามที่ ที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกรประจำาปี 2559 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559

ได้เลือกตั้งผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 6 โดยมีวาระการดำารงตำาแหน่ง 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 10

เมษายน 2559 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2562 นั้น ผู้ตรวจสภาวิศวกรได้เข้าดำาเนินการตรวจสอบ

การดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกร คณะอนุกรรมการฯ คณะทำางานต่างๆ (สมัยที่

6) และเจ้าหน้าที่สภาวิศวกร ตามอำานาจหน้าที่ที่กำาหนดไว้ในมาตรา 20 มาตรา 21 มาตรา 22

และมาตรา 23 ในพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ผู้ตรวจสภาวิศวกรจึงขอเสนอรายงานผู้

ตรวจสภาวิศวกรสมัยที่ 6 ประจำาปี 2562 ดังต่อไปนี้ :

3

ปี 2562

ปฏิทินการประชุมผู้ตรวจสภาวิศวกรต่อประชุมใหญ่สามัญ สภาวิศวกร ประจำาปี 2562

ข้อเสนอแนะผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 6 ต่อการดำาเนินงานของสภาวิศวกร

คณะผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 6 ได้ตรวจสอบการดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกร

นับจากได้รับการแต่งตั้ง โดยกำาหนดให้มีการประชุมเดือนละครั้ง ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม -

เมษายน 2562 ผู้ตรวจสภาวิศวกรได้มีการประชุมไปแล้วทั้งสิ้นจำานวน 4 ครั้ง ดังนี้

1. ผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 6 ในการประชุมครั้งที่ 33-1/2562 เมื่อวันที่ 17 มกราคม

2562 ขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับการว่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำาการ

สภาวิศวกร สืบเนื่องจากผู้ตรวจได้พิจารณาขอบเขตของงาน (Term of Reference: TOR)

การว่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำาการสภาวิศวกร (Project Man-

agement Consultant: PMC) ระยะที่ 1 ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้ตรวจสภาวิศวกรจึงมีบันทึก

ข้อความ เพื่อสอบถามสภาวิศวกรถึงผลผลิตของการว่าจ้างที่ปรึกษาฯ และสภาวิศวกรจะ

นำาไปใช้ประโยชน์ต่อเนื่องอย่างไร

ครั้งที่ วันที่ประชุม

33-1/2562 17 มกราคม 2562

34-2/2562 21 กุมภาพันธ์ 2562

35-3/2562 7 มีนาคม 2562

36-4/2562 1 เมษายน 2562

4

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

2. ผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 6 ในการประชุมครั้งที่ 34-2/2562 เมื่อวันที่ 21

กุมภาพันธ์ 2562 ได้พิจารณาแผนการดำาเนินงานและงบประมาณ ประจำาปี 2562 ซึ่งพบว่ามี

แผนการดำาเนินงานและโครงการที่ระบุหมายเหตุไว้ว่าให้รอกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7 เป็น

ผู้ดำาเนินการ นั้น ผู้ตรวจสภาวิศวกรตั้งข้อสังเกตว่างานใดที่เป็นงานสัมมนาให้คำาแนะนำา และ

ให้ความรู้ต่าง ๆ แก่สมาชิก เห็นควรให้พิจารณาดำาเนินการในโครงการที่จำาเป็นเพื่อก่อให้เกิด

ประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิกสภาวิศวกร ส่วนแผนโครงการใดที่เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ

การลงทุนหากไม่ใช่โครงการต่อเนื่องขอให้พิจารณารอกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7

เป็นผู้ดำาเนินการต่อไป

3. ตามที่ สภาวิศวกรได้ดำาเนินการเลือกตั้งกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7 เป็นที่

เรียบร้อยแล้ว ประกอบกับคณะกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 6 ได้หมดวาระการดำารงตำาแหน่งลง

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ผู้ตรวจสภาวิศวมีขอหารือเกี่ยวกับการใช้คำานำาหน้าในตำาแหน่ง

ของสภาวิศวกร ตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 เนื่องจากตามระบบบริหารราชการหาก

หมดวาระการดำารงตำาแหน่งแล้ว และยังไม่มีผู้มารับตำาแหน่งดังกล่าวจะต้องใช้คำานำาหน้าว่า

“รักษาการในตำาแหน่ง” หรือคำาอื่นที่สื่อความหมายเดียวกัน และควรต้องออกประกาศสภา

วิศวกรเพื่อให้รับทราบด้วย ทั้งนี้ สภาวิศวกรควรทำาหนังสือถึงสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เพื่อขอหารือในเรื่องดังกล่าวเพื่อที่จะใช้เป็นบรรทัดฐานในกรณีนี้ต่อไป

4. ตามที่ผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 6 จะหมดวาระการดำารงตำาแหน่งในวันที่ 10

เมษายน 2562 ประกอบกับที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2562 วันที่ 24 มกราคม

2562 ได้ให้ความเห็นชอบแต่งตั้งผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 7 เรียบร้อยแล้วนั้น

ผู้ตรวจสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 34-2/2562 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562

เห็นควรเชิญนายบัณฑิต อัมพรศรีสุภาพ เข้าร่วมประชุมและรับฟังความเห็นในการตรวจสอบ

การดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกรที่ผ่านมา ในวันที่ 1 เมษายน 2562 เวลา 14.30

นาฬิกา ณ ห้องประชุมผู้ตรวจสภาวิศวกร สำานักงานสภาวิศวกร เพื่อหารือแนวทางการดำาเนิน

งานต่อไป

รายงานโดยคณะผู้ตรวจสภาวิศวกร

• นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา

• นายประศักดิ์ บัณฑุนาค

• นายนพพร ลีปรีชานนท์

5

ปี 2562

ตามที่ ที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกรประจำาปี 2562 เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 ได้มีมติเลือกตั้งผู้ตรวจ

สภาวิศวกร สมัยที่ 7 โดยมีวาระการดำารงตำาแหน่ง 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2562 ถึงวันที่ 9 เมษายน

2565 นั้น ผู้ตรวจสภาวิศวกรได้เข้าดำาเนินการตรวจสอบการดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกร คณะ

อนุกรรมการฯ คณะทำางาน ๆ และเจ้าหน้าที่สภาวิศวกร ตามอำานาจหน้าที่ที่กำาหนดไว้ในมาตรา 20 มาตรา

21 มาตรา 22 และมาตรา 23 ในพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 จึงขอเสนอรายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

สมัยที่ 7 ประจำาปี 2562 ดังต่อไปนี้ :

เสนอที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกรประจำาปี 2563 วันที่ 11 มิถุนายน 2563

นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา นายบัณฑิต อัมพรศรีสุภาพ นายนพพร ลีปรีชานนท์

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 7 ประจำาปี 2562

6

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

• มาตรา 20 ให้มีผู้ตรวจคนหนึ่งหรือหลายคนตามที่ที่ประชุมใหญ่สภาวิศวกรแต่งตั้งจากสมาชิกหรือ

บุคคลภายนอก

คุณสมบัติ วาระการดำารงตำาแหน่ง และพ้นจากการดำารงตำาแหน่งให้เป็นไปตามที่กำาหนดในข้อบังคับ

สภาวิศวกร

ผู้ตรวจมีอำานาจหน้าที่ตรวจสอบการดำาเนินงานของคณะกรรมการแล้วทำารายงานเสนอต่อ

ที่ประชุมใหญ่สภาวิศวกร

• มาตรา 21 ในการตรวจสอบการดำาเนินงานของคณะกรรมการ ให้ผู้ตรวจมีอำานาจเข้าไปตรวจใน

สถานที่ทำางานต่าง ๆ ของสภาวิศวกรในระหว่างเวลาทำางานได้ และให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องอำานวยความสะดวก ช่วย

เหลือหรือให้คำาชี้แจงแก่ผู้ตรวจตามควรแก่กรณี

• มาตรา 22 กรรมการ อนุกรรมการ เจ้าหน้าที่สภาวิศวกร ลูกจ้าง และตัวแทนของสภาวิศวกรมีหน้า

ที่ส่งเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งตนเก็บรักษาหรืออยู่ในอำานาจของตนให้แก่ผู้ตรวจและให้คำาชี้แจงเกี่ยวกับ

การดำาเนินงานต่าง ๆ ในกิจการของสภาวิศวกร ทั้งนี้เมื่อผู้ตรวจร้องขอ

• มาตรา 23 ในกรณีที่พบว่าคณะกรรมการมิได้ดำาเนินงานตามแผนการดำาเนินงานประจำาปี หรือ

ดำาเนินงานไปในทางที่อาจก่อเกิดความเสียหายหรือขัดต่อวัตถุประสงค์ของสภาวิศวกรให้ผู้ตรวจแจ้งให้ที่

ประชุมใหญ่สภาวิศวกรหรือสมาชิกสามัญตามที่ตนเห็นควรเพื่อพิจารณาดำาเนินการต่อไป

การดำาเนินงานของผู้ตรวจควรเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 โดยให้ครอบคลุมใน 4 ประเด็น

ดังนี้

1. การดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกรเป็นไปตามแผนการดำาเนินงานและงบประมาณที่

เสนอไว้หรือไม่โดยพิจารณาจาก

1.1 รายงานการประชุมคณะกรรมการสภาวิศวกร

1.2 รายงานแสดงฐานะทางการเงิน รายรับและการใช้งบประมาณ

2. คำาว่าแผนการดำาเนินงานหมายถึงแผนการประชุม แผนการบริหาร และแผนการใช้งบประมาณ

3. กรณีตรวจพบการดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกรมิได้ดำาเนินงานตามแผนการดำาเนิน

งานประจำาปี หรือดำาเนินงานไปในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือขัดต่อวัตถุประสงค์ ของสภาวิศวกร

จะแจ้งต่อคณะกรรมการสภาวิศวกรเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุง และต้องรายงานเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุม

ใหญ่สามัญสภาวิศวกรประจำาปีต่อไป

4. ตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ผู้ตรวจจะมี 1 คนหรือหลายคนก็ได้ กรณีหลายคนผู้

ตรวจอาจแยกกันดำาเนินการตรวจสอบ จากนั้นนำาเรื่องดังกล่าวมาหารือร่วมกันเพื่อให้มีมติ หรือจะเสนอเรื่อง

โดยตรงก็ได้ ทั้งนี้ต้องแจ้งให้ที่ประชุมทราบ

แนวทางการดำาเนินงานของผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 7

อำานาจหน้าที่ของผู้ตรวจสภาวิศวกร ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542

7

ปี 2562

คณะผู้ตรวจสภาวิศวกร ได้ตรวจสอบการดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7 นับจากที่ผู้ตรวจสภาวิศวกร

ได้รับการแต่งตั้ง (เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562) โดยกำาหนดให้มีการประชุมเดือนละครั้ง ซึ่งหลังการประชุมใหญ่สามัญ

สภาวิศวกรเดือนมกราคม 2562 ถึงปัจจุบัน ผู้ตรวจสภาวิศวกรได้มีการประชุมไปแล้วทั้งสิ้นจำานวน 12 ครั้ง ดังนี้

ปฏิทินของผู้ตรวจสภาวิศวกรเสนอต่อประชุมใหญ่สามัญสภา

วิศวกร ประจำาปี 2563

ครั้งที่ วันที่ประชุม

1-1/2562 25 เมษายน 2562

2-2/2562 24 พฤษภาคม 2562

3-3/2562 14 มิถุนายน 2562

4-4/2562 30 กรกฎาคม 2562

5-5/2562 27 สิงหาคม 2562

6-6/2562 27 กันยายน 2562

7-7/2562 24 ตุลาคม 2562

8-8/2562 26 พฤศจิกายน 2562

9-9/2562 26 ธันวาคม 2562

10-1/2563 22 มกราคม 2563

11-2/2563 28 กุมภาพันธ์ 2563

12-3/2563 25 มีนาคม 2563

8

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

เลขาธิการสภาวิศวกรได้เข้าหารือร่วมกับผู้ตรวจสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 5-5/2562 เมื่อวันที่

27 สิงหาคม 2562 เพื่อพิจารณากำาหนดแนวทางการดำาเนินงานร่วมกัน โดยผู้ตรวจสภาวิศวกรได้มีข้อเสนอ

แนะต่อเลขาธิการสภาวิศวกร ดังนี้

1. การขอเอกสารต่าง ๆ จากสภาวิศวกรเพื่อใช้ประกอบการพิจารณานั้น หากเป็นเอกสาร

ที่ผู้ปฏิบัติงานใช้เป็นประจำาอยู่แล้ว หรือไม่ใช่เอกสารสำาคัญที่อยู่ในความครอบครองของสภาวิศวกร ผู้ตรวจ

สภาวิศวกร สามารถร้องขอจากหัวหน้าสำานักงานสภาวิศวกรได้โดยไม่ต้องผ่านเลขาธิการสภาวิศวกรและหาก

เป็นเอกสารสำาคัญ ผู้ตรวจสภาวิศวกรจะดำาเนินการทำาหนังสือเพื่อขอข้อมูลต่อเลขาธิการสภาวิศวกรตามขั้น

ตอนต่อไป

2. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ นั้น สภาวิศวกรควรพิจารณาถึงจำานวนผู้ปฏิบัติงาน

ที่จะเสนอแต่งตั้งด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ปฏิบัติงานในแต่ละคณะอนุกรรมการมีจำานวนมากจนเกินความ

จำาเป็น อีกทั้ง สภาวิศวกรควรพิจารณาแก้ไขหากอนุกรรมการมีการขาดประชุมติดต่อกันจำานวนหลายครั้งด้วย

3. การนำาเสนอรายงานประจำาปีของผู้ตรวจสภาวิศวกรต่อที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกรนั้น ขอให้

สภาวิศวกรพิจารณาเพิ่มระยะเวลาในการนำาเสนอเพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากขึ้น

4. การทำาประกันสุขภาพและอุบัติเหตุกลุ่มของคณะกรรมการสภาวิศวกร และเจ้าหน้าที่

สภาวิศวกร ผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อเสนอแนะว่าให้สภาวิศวกรพิจารณาจัดสวัสดิการให้แก่ผู้ตรวจสภาวิศวกร

เช่นเดียวกับกรรมการสภาวิศวกร เนื่องจากผู้ตรวจสภาวิศวกรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติวิศวกร

พ.ศ. 2542

5. สภาวิศวกรควรมีการปลูกฝังด้านจรรยาบรรณให้แก่สมาชิกที่มาขอรับใบอนุญาตฯ ใหม่

โดยอาจแนบข้อความที่เป็นคำาปฏิญาณของสภาวิศวกรให้แก่สมาชิกได้รับทราบข้อมูลด้วย

6. การจัดสอบทดสอบความรู้ฯ ระดับภาคีวิศวกร สภาวิศวกรควรพิจารณากำาหนดให้มีการทำาข้อสอบ

ที่เป็นอัตนัย และข้อสอบนั้นควรเป็นขั้นพื้นฐานที่สามารถนำามาประยุกต์กับการแก้ปัญหาทางด้านวิศวกรรม

ได้ เนื่องจากปัจจุบันประสบปัญหาว่าวิศวกรรุ่นใหม่มักใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำาเร็จรูปในการแก้ไขปัญหา

ซึ่งเป็นการขาดทักษะขั้นพื้นฐาน ดังนั้น สภาวิศวกรควรที่จะพิจารณาทดสอบความรู้ขั้นพื้นฐานดังกล่าว โดย

กำาหนดให้ออกข้อสอบเป็นอัตนัยและยกตัวอย่างข้อสอบพื้นฐานอย่างย่อให้สามารถทดสอบกับสมาชิก

สภาวิศวกรโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมสำาเร็จรูปได้

ผู้ตรวจสภาวิศวกรหารือร่วมกับเลขาธิการสภาวิศวกร

9

ปี 2562

จากการหารือร่วมดังกล่าวข้างต้น คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรได้จัดทำาบันทึกข้อเสนอแนะดังกล่าวข้างต้น

เสนอต่อเลขาธิการสภาวิศวกรเพื่อพิจารณาบริหารจัดการเสนอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำาเนินการต่อไป ทั้งนี้

เลขาธิการสภาวิศวกรรับข้อเสนอแนะและข้อสังเกตของคณะผู้ตรวจสภาวิศวกรไปพิจารณาดำาเนินการเพื่อเป็น

แนวทางในการบริหารงานตามความเหมาะสมต่อไป โดยมีบันทึกข้อความเลขที่ บร.415/2562 ลงวันที่

20 ธันวาคม 2562 เพื่อตอบข้อสังเกตโดยมีรายละเอียดดังนี้

1. กรณีการขอเอกสารต่าง ๆ จากสภาวิศวกรเพื่อใช้ประกอบการพิจารณานั้นหากเป็นเอกสารที่ผู้

ปฏิบัติงานใช้เป็นประจำาอยู่แล้ว หรือไม่ใช่เอกสารสำาคัญที่อยู่ในความครอบครองของสภาวิศวกร ผู้ตรวจ

สภาวิศวกรสามารถร้องขอจากหัวหน้าสำานักงานสภาวิศวกรได้โดยไม่ต้องผ่านเลขาธิการสภาวิศวกรและหาก

เป็นเอกสารสำาคัญ ผู้ตรวจสภาวิศวกรจะดำาเนินการทำาหนังสือเพื่อขอข้อมูลต่อเลขาธิการสภาวิศวกรตามขั้น

ตอน นั้น

คณะอนุกรรมการการบริหาร ในการประชุมครั้งที่ 6-6/2562 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562

พิจารณาแล้วเห็นชอบให้ผู้ตรวจสภาวิศวกรสามารถขอเอกสารจากหัวหน้าสำานักงานสภาวิศวกรได้ โดยไม่

ต้องผ่านเลขาธิการสภาวิศวกร เว้นแต่เป็นเอกสารสำาคัญที่จะต้องทำาหนังสือเพื่อขอข้อมูลจากเลขาธิการสภา

วิศวกร

2. กรณีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ นั้น สภาวิศวกรควรพิจารณาถึงจำานวนผู้ปฏิบัติงานที่

จะเสนอแต่งตั้งด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ปฏิบัติงานในแต่ละคณะอนุกรรมการมีจำานวนมากจนเกินความจำาเป็น

อีกทั้ง สภาวิศวกรควรพิจารณาแก้ไขหากอนุกรรมการมีการขาดประชุมติดต่อกันจำานวนหลายครั้งด้วย นั้น

สภาวิศวกรได้ดำาเนินการจัดทำาข้อมูลและสถิติการเข้าร่วมประชุมของคณะกรรมการ

สภาวิศวกร อนุกรรมการสภาวิศวกร และคณะทำางานชุดต่าง ๆ ให้แก่กรรมการสภาวิศวกรที่เป็นประธานใน

แต่ละชุดทราบแล้ว เพื่อดำาเนินการปรับปรุงจำานวนคณะอนุกรรมการ/คณะทำางานต่อไป

3. กรณีการนำาเสนอรายงานประจำาปีของผู้ตรวจสภาวิศวกรต่อที่ประชุมใหญ่สามัญ สภาวิศวกรนั้น

ขอให้สภาวิศวกรพิจารณาเพิ่มระยะเวลาในการนำาเสนอเพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากขึ้นนั้น สภาวิศวกรอยู่ใน

ระหว่างการจัดเตรียมงาน ทั้งนี้ หัวหน้าสำานักงานสภาวิศวกรได้เสนอเรื่องดังกล่าวในการประชุมคณะทำางาน

จัดประชุมใหญ่เพื่อพิจารณาต่อไป

4. กรณีการทำาประกันสุขภาพและอุบัติเหตุกลุ่มของคณะกรรมการสภาวิศวกร และเจ้าหน้าที่สภา

วิศวกร ผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อเสนอแนะว่าให้สภาวิศวกรพิจารณาจัดสวัสดิการให้แก่ผู้ตรวจสภาวิศวกรเช่น

เดียวกับกรรมการสภาวิศวกร เนื่องจากผู้ตรวจสภาวิศวกรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติวิศวกร

พ.ศ. 2542 นั้น สภาวิศวกรได้ดำาเนินการจัดทำาหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อเพิ่มผู้ตรวจ

สภาวิศวกรเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 เรียบร้อยแล้ว

10

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

5. สภาวิศวกรควรมีการปลูกฝังด้านจรรยาบรรณให้แก่สมาชิกที่มาขอรับใบอนุญาตฯ ใหม่

โดยอาจแนบข้อความที่เป็นคำาปฏิญาณของสภาวิศวกรให้แก่สมาชิกได้รับทราบข้อมูลด้วย

คณะอนุกรรมการอบรมและทดสอบความรู้เกี่ยวกับความพร้อมในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมครั้งที่

13-2/2563 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 พิจารณาแล้วให้ความเห็นว่าการอบรมและทดสอบความรู้เกี่ยวกับ

ความพร้อมฯ มีการบรรยายวิชาจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพอยู่แล้วจำานวน 1 ชั่วโมง และในปัจจุบัน

ยังไม่มีคำาปฏิญาณของสภาวิศวกร จึงไม่สามารถดำาเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวข้างต้นได้

6. กรณีการจัดสอบทดสอบความรู้ฯ ระดับภาคีวิศวกร สภาวิศวกรควรพิจารณากำาหนดให้มีการทำา

ข้อสอบที่เป็นอัตนัย และข้อสอบนั้นควรเป็นขั้นพื้นฐานที่สามารถประยุกต์กับการแก้ปัญหาทางด้านวิศวกรรม

ได้ เนื่องจากประสบปัญหาว่าวิศวกรรุ่นใหม่มักใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำาเร็จรูปในการแก้ไขปัญหา ซึ่ง

เป็นการขาดทักษะขั้นพื้นฐาน ดังนั้น สภาวิศวกรควรที่จะพิจารณาทดสอบความรู้ขั้นพื้นฐานดังกล่าวโดย

กำาหนดให้ออกข้อสอบเป็นอัตนัยและยกตัวอย่างข้อสอบพื้นฐานอย่างย่อให้สามารถทดสอบกับสมาชิกสภา

วิศวกรโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมสำาเร็จรูปได้

คณะอนุกรรมการทดสอบความรู้ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ระดับ

ภาคีวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 10-1/2563 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อสอบ

ในปัจจุบันได้มีแนวทางการปรับปรุงให้สอดคล้องกับระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยองค์ความ

รู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และองค์ความรู้เฉพาะทางวิศวกรรม ที่สภาวิศวกรจะให้การรับรองปริญญา

ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. 2562 และคณะอนุกรรมการ

ทดสอบความรู้ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ระดับภาคีวิศวกร ได้มีการปรับปรุง

ข้อสอบและออกข้อสอบอย่างต่อเนื่องแล้ว

ในการประชุมคณะอนุกรรมการการบริหาร เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ผู้ตรวจสภาวิศวกร ที่ได้

รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2562 ได้เข้าร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมการ การ

บริหารประกอบด้วย นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา และนายนพพร ลีปรีชานนท์ สำาหรับนายบัณฑิต อัมพรศรีสุภาพ

ติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้

ผู้ตรวจสภาวิศวกรประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการการบริหาร สมัยที่ 7

11

ปี 2562

ในการนี้ ผู้ตรวจสภาวิศวกร แจ้งแนวทางในการดำาเนินงานของผู้ตรวจสภาวิศวกร และชี้แจงรายละเอียดข้อ

เสนอแนะจากผู้ตรวจสภาวิศวกรเพิ่มเติม ดังนี้

1. ผู้ตรวจสภาวิศวกรเสนอให้สภาวิศวกรเป็นผู้นำาเชิงวิศวกรรมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี

และเป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมทั้งประเทศในทุกระดับ โดยไม่มีการแบ่งแยก และสร้างความ

สามัคคี เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาวิชาชีพวิศวกรรมและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2. หน้าที่ของสภาวิศวกรควรให้ความสำาคัญกับการทดสอบความรู้ความชำานาญในการประกอบ

วิชาชีพวิศวกรรมของผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ส่วนการเรียนการสอนควรเป็นหน้าที่ของสถาบันการศึกษา

3. ผู้ตรวจสภาวิศวกรเสนอให้มีการปรับปรุงขั้นตอนการสมัครสมาชิก ขอรับใบอนุญาตฯ และต่ออายุ

ใบอนุญาตฯ และการขอรับบริการอื่น ๆ ของสภาวิศวกรผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์

4. สภาวิศวกรควรมีการบันทึกภาพและเสียงการจัดอบรมสัมมนาต่าง ๆ ของสภาวิศวกร

ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบวิชาชีพ และเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของสภาวิศวกร โดยกำาหนด

เงื่อนไขให้สมาชิกคีย์รหัสสมาชิกหรือเลขทะเบียนใบอนุญาตฯ เพื่อลงทะเบียนก่อนจึงจะสามารถเข้ารับชมได้

เพื่อเป็นการส่งเสริมสวัสดิการให้แก่สมาชิกสภาวิศวกรอีกแนวทางหนึ่ง

5. ควรเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อพิจารณาแต่งตั้งให้ผู้ตรวจสภาวิศวกรเป็น

พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 เช่นเดียวกับคณะกรรมการสภาวิศวกรและ

คณะกรรมการจรรยาบรรณ และขอให้จัดทำาบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐให้แก่ผู้ตรวจสภาวิศวกรตามขั้น

ตอนต่อไป

6. สภาวิศวกรควรเพิ่มเวลาการจัดประชุมใหญ่สภาวิศวกรควรให้มากขึ้น เนื่องจากสภาวิศวกรเป็น

องค์กรใหญ่ มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนโยบายและงบประมาณและแผนการดำาเนินงานที่ต้องพิจารณามาก

จึงควรมีเวลาในการนำาเสนอรายละเอียดและอภิปรายให้ความเห็นอย่างเพียงพอ

คณะอนุกรรมการการบริหารเห็นควรรับข้อเสนอของผู้ตรวจสภาวิศวกรไปพิจารณาดำาเนินการในส่วน

ที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อส่งเสริมการดำาเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกสภาวิศวกร พร้อมทั้งให้จัดทำาหนังสือ

ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอให้พิจารณาแต่งตั้งให้ผู้ตรวจสภาวิศวกรเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่

ของรัฐตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 และขอให้จัดทำาบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐให้แก่ผู้ตรวจสภา

วิศวกรตามขั้นตอนต่อไป

ในการประชุมของคณะผู้ตรวจสภาวิศวกรได้พิจารณาเอกสารการประชุมของคณะกรรมการสภา

วิศวกร ซึ่งจะแสดงการดำาเนินงานและสรุปมติของคณะกรรมการสภาวิศวกร คณะอนุกรรมการการบริหาร

คณะอนุกรรมการบริหารงบประมาณและการเงิน และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องชุดต่างๆ ในแต่ละเดือน

ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจได้ลงรายละเอียดเชิงลึกในรายงานการประชุมคณะกรรมการสภาวิศวกร

คณะอนุกรรมการการบริหาร คณะอนุกรรมการบริหารงบประมาณและการเงิน และติดตามตรวจสอบรายงาน

สถานะการเงินและผลการดำาเนินงานในแต่ละเดือน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเป็นผู้จัดทำาวาระและรายงาน

การประชุม พร้อมทั้งรวบรวมและจัดทำาข้อเสนอแนะของผู้ตรวจสภาวิศวกรเพื่อเสนอต่อนายกสภาวิศวกร

โดยความช่วยเหลือของหัวหน้าสำานักงานสภาวิศวกรและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร โดยมีเลขานุการฯ ดูแลงานให้

ผู้ตรวจสภาวิศวกร

12

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

จากการประชุมผู้ตรวจสภาวิศวกร นับจากการประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกรเดือนมกราคม 2562 ถึง

ปัจจุบันผ่านมา รวม 12 ครั้ง คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรมีเรื่องเสนอต่าง ๆ ดังนี้

การดำาเนินงานของคณะกรรมการสภาวิศวกร คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องชุดต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่

ของสภาวิศวกรส่วนใหญ่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวิศวกร

พ.ศ. 2542 วัตถุประสงค์ ข้อบังคับและระเบียบของสภาวิศวกร อย่างไรก็ตามพบว่ามีการดำาเนินการบาง

ประการที่ผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อสังเกตว่ายังไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 วัตถุประสงค์

ข้อบังคับและระเบียบของสภาวิศวกร ซึ่งผู้ตรวจสภาวิศวกรได้มีบันทึกให้ข้อมสังเกตกับข้อเสนอแนะ

ดังต่อไปนี้

1. ข้อเสนอแนะผู้ตรวจสภาวิศวกร สมัยที่ 7

ผู้ตรวจสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 4-4/2562 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการ

จัดทำาบันทึกข้อเสนอแนะถึงคณะกรรมการสภาวิศวกร เพื่อประโยชน์ต่อการดำาเนินงานตามหลักธรรมภิบาล

ดังนี้

1. คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรขอข้อมูลการแต่งตั้งตำาแหน่งประธานอนุกรรมการของคณะกรรมการสภา

วิศวกร สมัยที่ 7 ทั้ง 20 ท่าน

2. คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรขอข้อมูลจำานวนผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม

ควบคุมระดับสามัญวิศวกร และวุฒิวิศวกร ใน 3 สาขาวิชาชีพวิศวกรรม ได้แก่ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า

สาขาวิศวกรรมเครื่องกล และสาขาวิศวกรรมโยธา

ทั้งนี้ ผู้ตรวจสภาวิศวกรขอทราบหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสัมภาษณ์ และการสอบแก้ตัวของ

ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมดังกล่าวข้างต้น ทั้งหลักเกณฑ์หลักและหลักเกณฑ์ย่อยที่

อาจถูกกำาหนดขึ้นโดยคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ

3. กรณีขอความเห็นในเรื่องของการจัดจ้างนิติบุคคล เพื่อดำาเนินการแปลข้อบังคับสภาวิศวกรและ

ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรเป็นภาษาอังกฤษ คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อสังเกตว่าเจตนารมณ์ของการ

แปลภาษาอังกฤษดังกล่าวต้องการที่จะทำาให้สภาวิศวกรได้รับประโยชน์ในระดับนานาชาติและสามารถเข้าถึง

ข้อมูลได้ในระดับสากล ดังนั้น สภาวิศวกรควรพิจารณาการแปลข้อบังคับสภาวิศวกรและระเบียบ

คณะกรรมการสภาวิศวกรทั้งหมดให้เป็นภาษาอังกฤษด้วย เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ

และเว็บไซต์ของสภาวิศวกรได้

4. สภาวิศวกรควรพิจารณาปรับปรุงข้อบังคับสภาวิศวกรและระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร

เพื่อให้วิศวกรที่สำาเร็จการศึกษาในต่างประเทศสามารถเข้ามาสมัครทดสอบความรู้เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้

ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมได้ และเพื่อเป็นการยกระดับสภาวิศวกรให้อยู่ในระดับสากลต่อไป

5. กรณีการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สภาวิศวกรควรพิจารณาปรับปรุง

แก้ไขระบบและลดขั้นตอนการดำาเนินงาน เพื่ออำานวยความสะดวกให้สมาชิก ทั้งนี้ อาจดำาเนินการต่ออายุใบ

อนุญาตฯ ในรูปแบบอื่น ๆ อาทิเช่น ปรับปรุงระบบให้สมาชิกสามารถจัดส่งเอกสารต่าง ๆ ผ่านหน้าเว็บไซต์

ของสภาวิศวกรได้ เป็นต้น

13

ปี 2562

2. ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจสภาวิศวกรเกี่ยวกับการกำาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ

และการใช้ชื่อสภาวิศวกรภาษาอังกฤษ

ตามที่ ผู้ตรวจสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 5-5/2562 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562

ที่ประชุมได้รับทราบและมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสรุปมติรายงานการประชุมของคณะกรรมการสภาวิศวกร

ในการประชุมครั้งที่ 5-5/2562 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ในเรื่องดังต่อไปนี้

1. กรณีการกำาหนดวิสัยทัศน์ และพันธกิจ ของคณะกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7

คณะผู้ตรวจสภาวิศวกร มีข้อเสนอแนะในส่วนของวิสัยทัศน์ว่า สภาวิศวกรควรกำาหนดวิสัยทัศน์ให้มีความ

สอดคล้องกับพันธกิจและมาตรการดำาเนินการด้วย

2. คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อเสนอแนะในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการประกอบวิชาชีพ ของ

คณะกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7 ดังนี้

2.1 สภาวิศวกรมีมาตรการ “ส่งเสริมการทำากรอบความสามารถของผู้ปฏิบัติวิชาชีพในแต่ละสาขา

เพื่อใช้ประเมินผลในการสอบเลื่อนระดับ และการออกใบรับรองความรู้ความชำานาญ ประสานงานกรรมการ

จรรยาบรรณในกรณีพิพาทและไกล่เกลี่ย ปรับปรุงระบบและข้อสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตระดับภาคีวิศวกร

โดยเน้นเรื่องการประเมินผลความสามารถของผู้สอบ”

สภาวิศวกรควรพิจารณาเพิ่มเติมข้อความท้ายประโยค เพื่อให้มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน ดังนี้ “ใน

การประเมินปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ในการวัดผลการสอบสภาวิศวกรอาจผนวกกรณีศึกษาที่เกิดขึ้น

จากกรณีพิพาทและไกล่เกลี่ยเข้าไปในการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตฯ ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ได้

ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเรียนรู้ เพื่อนำามาประกอบการประเมิน ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการเน้น

เรื่องยกระดับจรรยาบรรณวิชาชีพของวิศวกรเพื่อลดโอกาสในการเกิดกรณีพิพาทในลักษณะเช่นนี้ในอนาคต”

2.2 ในส่วนของแผนปฏิบัติการข้อ 3.6 สภาวิศวกรควรปรับแก้ข้อความจาก “ส่งเสริมการรับรอง

มาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพ (Code of Practices) มาตรฐานความประพฤติ (Code of Conducts) และ

มาตรฐานการให้บริการวิชาชีพ (Code of Services)” เป็น “กำากับดูแลการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติ

วิชาชีพ (Code of Practices) มาตรฐานความประพฤติ (Code of Conducts) และมาตรฐานการให้บริการ

วิชาชีพ (Code of Services)”

3. กรณีการใช้ชื่อเรียกสภาวิศวกรในภาษาอังกฤษ คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อสังเกตว่า

การใช้คำาว่า “Council of Engineers Thailand : COET” นั้น ขาดคำาบุพบทระหว่างคำาว่า Engineers กับ

Thailand ซึ่งผิดหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจฯ ขอเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

โดยอ้างอิงจากสภาวิชาชีพอื่น อาทิเช่น สภาทนายความ ใช้ชื่อ Lawyers Council Under the Royal

Patronage, สภาสถาปนิก ใช้ชื่อ Architect Council of Thailand และแพทย์สภา ใช้ชื่อ The Medical

Council of Thailand เป็นต้น คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรจึงขอเสนอให้แก้ไขให้ถูกต้อง ดังนี้

3.1 Council of Engineers of Thailand: COET

หรือ

3.2 Thai Council of Engineers: TCOE

14

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

3. ข้อสังเกตจากแผนการดำาเนินงานและงบประมาณประจำาปี 2562

จากการตรวจสอบเอกสารรายงานผลการดำาเนินงานและงบประมาณประจำาปี 2562

ที่เสนอเพื่อทราบในการประชุมคณะกรรมการสภาวิศวกร นั้น

คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสัมมนา การให้ความรู้แก่สมาชิกสภาวิศวกรในแต่ละจังหวัด

ว่าเพราะเหตุใดแต่ละสาขาถึงต้องแยกกันจัดสัมมนาในแต่ละสถานที่ต่าง ๆ ด้วย สภาวิศวกรควรจัดสัมมนา

พร้อมกันเพื่อให้สาขาที่มีสมาชิกจำานวนน้อยสามารถที่จะจัดสัมมนาได้และเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย

ที่อาจเกิดขึ้นได้ ผู้ตรวจสภาวิศวกรจึงได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดสัมมนา ดังนี้

1. การส่งเสริมเพื่อให้สมาชิกสภาวิศวกรที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตฯ

ได้หลายช่องทาง โดยใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดีย และ Social Media โดยมีข้อเสนอแนะแนวทางการดำาเนินการ

ดังนี้

1.1 สภาวิศวกรควรจัดทำาสกู๊ปหรือวีดีทัศน์ที่มีเนื้อหาสารที่มีประโยชน์ต่อสมาชิก โดยให้ใช้วิธีการถ่าย

ทำาที่ง่าย อาจจะถ่ายทำาภายในห้องที่จัดเตรียมไว้ แล้วนำาไฟล์ขึ้นช่อง YouTube หรือเพจ Facebook ของ

สภาวิศวกร

1.2 สภาวิศวกรควรจัดอบรมสัมมนาโดยมีการบันทึกภาพผ่าน Facebook life เพื่อให้สมาชิกสภา

วิศวกรสามารถเข้ามาชมและสอบถามได้ตามฐานเวลาจริงได้จากทุกที่ เพื่อเป็นการลดภาระการเดินทางของ

สมาชิกที่อยู่ต่างจังหวัด

2. การส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งบประมาณในการจัดอบรมสัมมนา ที่ได้รับงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับ

การส่งเสริมการขอรับใบอนุญาตฯ เพื่อลดความซ้ำาซ้อนในการดำาเนินการโดยปรับการอบรมสัมมนาและงบ

ประมาณให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยใช้แนวทางตามข้อที่ 1 ประกอบ

ทั้งนี้ ขอให้สภาวิศวกรพิจารณาจัดทำาทั้งระดับภาคีวิศวกร ระดับสามัญวิศวกร ระดับวุฒิวิศวกรและระดับภาคี

วิศวกรพิเศษ โดยอาจทำาเป็นเทปบันทึกหลักการของทุกสาขา ซึ่งอาจแยกเป็นรายสาขาและแยกเป็นระดับ (

ระดับภาคีวิศวกร ระดับสามัญวิศวกร และระดับวุฒิวิศวกร) ด้วยก็ได้

คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรเห็นว่าในการดำาเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวจะเป็นการช่วยสภาวิศวกร

ประหยัดงบประมาณเป็นจำานวนมาก โดยปรับปรุงงบประมาณบางส่วน เช่น โครงการอบรมสัมมนาชุด

ต่าง ๆ โครงการจัดอบรมทดสอบความรู้ฯ ระดับภาคีวิศวกร ประจำาปี 2562 และงานจัดทำาคลังข้อสอบ

ระดับภาคีวิศวกร ปี 2562 และนำางบประมาณส่วนหนึ่งจากโครงการดังกล่าวมาจัดทำาโครงการที่นำาเสนอข้าง

ต้นได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการสภาวิศวกรต่อไป

15

ปี 2562

4. ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเรื่องการปรับปรุงข้อบังคับว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร

ตามที่ คณะกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7 มีนโยบายด้านองค์กรและการให้บริการ ข้อ 3.12 โดยระบุว่า สภา

วิศวกรจะปรับปรุงการให้บริการผ่านระบบเทคโนโลยี เพื่อให้สภาวิศวกรเป็นหน่วยงานผู้นำาด้าน

ดิจิตัลของประเทศไทย นั้น

ผู้ตรวจสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 11-2/2563 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 มีข้อสังเกตใน

เรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2563 เนื่องจากพบว่ามีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ

หนังสือนัดประชุมใหญ่ฯ เป็นจำานวนเงิน 1,530,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนสามหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งเป็นค่าใช้

จ่ายจำานวนมากที่สภาวิศวกรจะต้องเสียไปกับการจัดพิมพ์หนังสือนัดประชุมและส่งไปรษณีย์ อีกทั้งการจัด

ส่งหนังสือนัดประชุมฯ ทางไปรษณีย์นั้น ไม่สามารถรับรองได้ว่าสมาชิกสภาวิศวกรจะได้รับเอกสารหรือไม่

เนื่องจากไม่มีการตรวจเช็ค หรือ Update ฐานข้อมูล

ผู้ตรวจสภาวิศวกรจึงตั้งข้อสังเกตว่าควรปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่

สภาวิศวกร หมวดที่ 2 วีธีการประชุม ข้อ 8 “คณะกรรมการต้องมีหนังสือเรียกประชุมโดยส่งทางไปรษณีย์

ไปยังสมาชิกทุกคน ณ ภูมิลำาเนา หรือสำานักงานก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน หรือมีหนังสือเรียก

ประชุมโดยประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันที่แพร่หลายทั่วราชอาณาจักรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อน

การประชุมหนังสือเรียกประชุมนั้น ให้ระบุสถานที่ วัน เวลา ระเบียบวาระ และเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วย”

ซึ่งการปรับปรุงข้อบังคับดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของคณะกรรมการ

สภาวิศวกร สมัยที่ 7 ในการนำาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มาประยุกต์ให้สามารถทำางานร่วมกันได้ และการ

ปรับปรุงการให้บริการผ่านระบบเทคโนโลยี เพื่อให้สภาวิศวกรเป็นหน่วยงานผู้นำาด้านดิจิตัลของประเทศไทย

อีกทั้งยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายของสภาวิศวกรและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ผู้ตรวจสภาวิศวกรขอเสนอแนะแนวทางการจัดทำาและจัดส่งหนังสือนัดประชุมฯ ดังนี้

1. สำาหรับสมาชิกใหม่ สภาวิศวกรควรให้สมาชิกระบุ E-mail และช่องทางมีเดีย อาทิเช่น Face-

book, Line เพื่อรับแจ้งข้อมูลข่าวสารสำาคัญของสภาวิศวกร สำาหรับสมาชิกชิกเก่าสภาวิศวกรควรมีช่องทาง

ให้สมาชิกสามารถเข้าไปตรวจสอบและ Update ฐานข้อมูลของตนเองให้เป็นปัจจุบันได้

2. ควรจัดทำาหนังสือนัดประชุมเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อจัดส่งให้สมาชิกทาง E-mail และช่องทาง

มีเดียของสภาวิศวกร อาทิเช่น เว็บไซต์สภาวิศวกร, Facebook, Line ฯลฯ เป็นต้น

5. ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในการเลื่อนประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2563

ตามที่ สภาวิศวกรกำาหนดจัดประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2563 เดิมในวันพุธที่ 22 เมษายน 2563

ตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 นาฬิกา ณ การไฟฟ้านครหลวงสำานักงานใหญ่ (คลองเตย)กรุงเทพมหานคร นั้น

16

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

สืบเนื่องจากกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID 19) ที่กำาลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งด่วนในการ

ป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งเป็นการดำาเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ

บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่

16 มีนาคม 2563 ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่ มาตรการป้องกันและสกัดกั้นการนำาเชื้อไวรัส

โคโรนา 2019 เข้าสู่ประเทศไทย และมาตรการยับยั้งการระบาดภายในประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับ

สถานการณ์ดังกล่าว ประกอบกับปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้มีประกาศ เรื่อง การควบคุมการระบาดของโรค

ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2563 โดยขอให้หน่วยงานต่าง ๆ พิจารณาให้

ความร่วมมือการทำางานที่บ้าน

การประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และงดการจัดกิจกรรมรวมพลหรือกิจกรรมที่ทำาให้มีคนรวมกัน

เป็นจำานวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด เช่น การประชุม สัมมนา อบรม เป็นต้น นั้น ส่งผลให้

สภาวิศวกรจำาเป็นต้องเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญฯ ประจำาปี 2563 ออกไปก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมรับ

สถานการณ์และผลกระทบจากการแพร่ระบาด โดยกำาหนดการใหม่จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

ผู้ตรวจสภาวิศวกรได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยสรุปได้ดังนี้

1. ตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 มาตรา 37 วรรค 2 “ให้คณะกรรมการจัดทำารายงาน

ประจำาปีแสดงผลงานของคณะกรรมการในปีที่ล่วงมา คำาชี้แจงเกี่ยวกับนโยบาย พร้อมด้วยงบดุลและบัญชี

รายได้และรายจ่ายประจำาปี ซึ่งผู้สอบบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยผู้สอบบัญชีรับรองเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภา

วิศวกรภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน” นั้น

ผู้ตรวจฯ มีความเห็นในกรณีที่สภาวิศวกรพิจารณาเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำา

ปี 2563 ออกไปเนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าที่กำาลังแพร่ระบาดอยู่ขณะนี้ การเลื่อนประชุมฯ ดังกล่าว

ควรพิจารณาว่าขัดต่อพระราชบัญญัติวิศวกรหรือข้อบังคับหรือไม่ สุ่มเสี่ยงต่อการทำาผิดกฎหมายหรือไม่ และ

หากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่ามีความยืดเยื้อเป็นเวลาหลายเดือน สภาวิศวกรจะดำาเนินการอย่างไรต่อ

ไปให้การประชุมใหญ่สามัญฯ ที่จะเกิดขึ้นหลังเดือนเมษายน 2563 เป็นการดำาเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย

รวมถึง

สภาวิศวกรจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างจากการเลื่อนการประชุมใหญ่ฯ ดังกล่าว

2. หากมีการเลื่อนประชุมฯ ผู้ตรวจฯ เห็นควรให้สภาวิศวกรมีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ

สภานายกพิเศษ เพื่อชี้แจงในเรื่องการเลื่อนประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำาปี 2563 เนื่องจาก

สภาวิศวกรไม่มีอำานาจในการตัดสินใจกระทำาการใด ๆ ด้วยตนเอง

3. ผู้ตรวจฯ มีข้อเสนอแนะให้สภาวิศวกรพิจารณาการเปลี่ยนรูปแบบการประชุมใหญ่ฯ ด้วยการใช้วิธี

อิเล็คทรอนิกส์ที่ออกแบบให้สมาชิกสามารถยืนยันตัวตนได้ ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้ และต้องมีการบันทึก

ประชุมได้ทั้งภาพและเสียง สภาวิศวกรควรนำาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ โดยอาจจะใช้วิธีการประชุมออนไลน์

ด้วยโปรแกรมพื้นฐานต่าง ๆ ผ่านระบบสารสนเทศ โดยอาจซื้อลายเส้นของโปรแกรม Zoom มาใช้ในการประ

ชุมฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่มากนัก ทั้งนี้ เห็นควรให้สำานักกฎหมายและจรรยาบรรณตรวจสอบการดำาเนินการดัง

กล่าวว่าขัดต่อระเบียบข้อบังคับของสภาวิศวกรหรือไม่ อนึ่ง หากสภาวิศวกรสามารถดำาเนินการประชุมในรูป

แบบนี้ได้ จะลดค่าใช้จ่ายในการจัดการประชุมใหญ่ฯ ลงไปได้จำานวนมา

17

ปี 2562

ทั้งนี้ สภาวิศวกรได้มีบันทึกชี้แจงข้อมูลตามที่ผู้ตรวจสภาวิศวกรได้ให้คำาแนะนำาไว้ ดังนี้

1. ข้อเสนอแนะผู้ตรวจสภาวิศวกรต่อการดำาเนินงานของสภาวิศวกร

ตามที่ ผู้ตรวจสภาวิศวกรมีบันทึกข้อความที่ ผต. 2/2562 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2562, บันทึกข้อความที่ ผต.

3/2562 และบันทึกข้อความที่ ผต. 4/2562 ลงวันที่ 9 กันยายน 2562 เพื่อให้ข้อสังเกตในการดำาเนินงานของ

สภาวิศวกร นั้น

คณะอนุกรรมการการบริหาร ในการประชุมครั้งที่ 5-5/2562 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562

เห็นควรมอบหมายหัวหน้าสำานักงานสภาวิศวกรจัดทำาบันทึกเลขที่ บร.414/2562 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2562

ตอบข้อหารือและข้อสังเกตของผู้ตรวจสภาวิศวกร โดยผ่านความเห็นชอบจากเลขาธิการสภาวิศวกร ดังนี้

1. กรณีคณะผู้ตรวจสภาวิศวกรขอข้อมูลการแต่งตั้งตำาแหน่งประธานอนุกรรมการของคณะกรรมการ

สภาวิศวกร สมัยที่ 7 ทั้ง 20 ท่าน

ผลการดำาเนินการ : สภาวิศวกรมอบข้อมูลการแต่งตั้งตำาแหน่งประธานอนุกรรมการของคณะกรรมการสภา

วิศวกร สมัยที่ 7 ทั้ง 20 ท่านต่อผู้ตรวจสภาวิศวกรแล้ว

2. กรณีคณะผู้ตรวจสภาวิศวกรขอข้อมูลจำานวนผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม

ควบคุมระดับสามัญวิศวกร และวุฒิวิศวกร ใน 3 สาขาวิชาชีพวิศวกรรม ได้แก่ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า

สาขาวิศวกรรมเครื่องกล และสาขาวิศวกรรมโยธา

ผลการดำาเนินการ : หัวหน้าสำานักงานสภาวิศวกรได้ให้ข้อมูลและรายงานต่อที่ประชุมผู้ตรวจสภาวิศวกรแล้ว

3. กรณีขอความเห็นในเรื่องของการจัดจ้างนิติบุคคล เพื่อดำาเนินการแปลข้อบังคับสภาวิศวกรและ

ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรเป็นภาษาอังกฤษ คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อสังเกตว่าเจตนารมณ์ของ

การแปลภาษาอังกฤษดังกล่าวต้องการที่จะทำาให้สภาวิศวกรได้รับประโยชน์ในระดับนานาชาติและสามารถ

เข้าถึงข้อมูลได้ในระดับสากล ดังนั้น สภาวิศวกรควรพิจารณาการแปลข้อบังคับสภาวิศวกรและระเบียบคณะ

กรรมการสภาวิศวกรทั้งหมดให้เป็นภาษาอังกฤษด้วย เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ และ

เว็บไซต์ของสภาวิศวกรได ้

ผลการดำาเนินการ : สภาวิศวกรดำาเนินการแปลข้อบังคับสภาวิศวกรและระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร

เป็นภาษาอังกฤษแล้ว จำานวน 8 ฉบับ ดังนี ้

3.1 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเป็นวิศวกรเอเปค (APEC Engineer)

พ.ศ. 2552

3.2 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Char

tered Professional Engineer) พ.ศ. 2557

3.3 ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณ

อันจะนำามาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2559

3.4 ระเบียบสภาวิศวกรว่าด้วยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม

พ.ศ. 2546

18

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

3.5 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ

วิศวกรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551

3.6 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ

วิศวกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554

3.7 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาวิศวกรผู้สมควรได้รับ

การเสนอชื่อต่อที่ประชุมใหญ่สภาวิศวกรเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการจรรยาบรรณ พ.ศ. 2550

3.8 ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการอุทธรณ์คำาวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการ

จรรยาบรรณ พ.ศ. 2551

4. สภาวิศวกรควรพิจารณาปรับปรุงข้อบังคับสภาวิศวกรและระเบียบคณะกรรมการ

สภาวิศวกร เพื่อให้วิศวกรที่สำาเร็จการศึกษาในต่างประเทศสามารถเข้ามาสมัครทดสอบความรู้

เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมได้ และเพื่อเป็นการยกระดับสภาวิศวกรให้อยู่ใน

ระดับสากลต่อไป

ผลการดำาเนินการ : สภาวิศวกรมีบันทึกเลขที่ ศว.33/2563 ตอบข้อสังเกตผู้ตรวจสภาวิศวกรเรียบร้อยแล้ว

โดยคณะอนุกรรมการมาตรฐานการศึกษาได้นำาเรื่องดังกล่าวพิจารณาในการประชุมกลุ่มเป้าหมาย (Focus

group) แล้วเห็นว่าตามข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการรับรองปริญญาฯ พ.ศ.2554 ข้อ 6 ย่อหน้าที่ 2 กรณีที่

เป็นสถานศึกษาต่างประเทศที่ไม่ได้รับการรับรองจากสำานักงาน ก.พ. ให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสภา

วิศวกรที่จะพิจารณาเป็นการเฉพาะราย ทำาให้ผู้ที่สำาเร็จการศึกษาจากสถานศึกษาต่างประเทศยื่นคำาขอรับใบ

อนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม โดยมีรายวิชา เนื้อหาในรายวิชา และรายละเอียดอื่น ๆ ครบถ้วน

ตามที่คณะกรรมการสภาวิศวกรกำาหนดสามารถเข้ารับการทดสอบความรู้ฯ ระดับภาคีวิศวกรได้

5. กรณีการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สภาวิศวกรควรพิจารณาปรับปรุง

แก้ไขระบบและลดขั้นตอนการดำาเนินงาน เพื่ออำานวยความสะดวกให้สมาชิก ทั้งนี้ อาจดำาเนินการต่ออายุใบ

อนุญาตฯ ในรูปแบบอื่น ๆ อาทิเช่น ปรับปรุงระบบให้สมาชิกสามารถจัดส่งเอกสารต่าง ๆ ผ่านหน้าเว็บไซต์

ของสภาวิศวกรได้ เป็นต้น

ผลการดำาเนินการ : สำานักงานสภาวิศวกรได้ดำาเนินการปรับปรุงระบบเพื่อเปิดให้บริการสมาชิกทำารายการ

ต่าง ๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์สภาวิศวกรแล้ว จำานวน 15 รายการ ดังนี้

5.1 การสมัครสมาชิกสภาวิศวกร และการขอรับใบอนุญาต

5.2 การยื่นขอหนังสือรับรอง 39 ทวิ

5.3 การต่ออายุใบอนุญาต ประเภทบุคคล

5.4 การสมัครทดสอบความรู้ผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ระดับภาคีวิศวกร

5.5 การต่ออายุใบอนุญาต ประเภทบุคคล

5.6 การสมัครอบรมและทดสอบความพร้อมในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม

5.7 การขอใบแทนใบอนุญาต ประเภทบุคคล

19

ปี 2562

5.8 การขอเลื่อนระดับใบอนุญาต

5.9 การขอรับใบอนุญาตฯ ระดับภาคีวิศวกรพิเศษ

5.10 การยื่นคำาขอรับใบอนุญาตฯ นิติบุคคล

5.11 การยื่นคำาขอต่ออายุใบอนุญาตฯ นิติบุคคล

5.12 การขอรับรองปริญญา

5.13 การสอบวัดผลผู้ตรวจสอบอาคาร

5.14 การขึ้นทะเบียน/ต่ออายุ วิศวกรเอเปค (APEC)

5.15 การขึ้นทะเบียน/ต่ออายุ วิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ACPE)

6. กรณีการกำาหนดวิสัยทัศน์ และพันธกิจ ของคณะกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7

คณะผู้ตรวจสภาวิศวกร มีข้อเสนอแนะในส่วนของวิสัยทัศน์ว่า สภาวิศวกรควรกำาหนดวิสัยทัศน์ให้มีความ

สอดคล้องกับพันธกิจและมาตรการดำาเนินการด้วย

ผลการดำาเนินการ : คณะกรรมการสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 10-10/2562 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562

รับทราบข้อสังเกตดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาปรับปรุงต่อไป

7. กรณีผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อเสนอแนะในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการประกอบวิชาชีพ ของ

คณะกรรมการสภาวิศวกร สมัยที่ 7 ดังนี้

7.1 สภาวิศวกรมีมาตรการ “ส่งเสริมการทำากรอบความสามารถของผู้ปฏิบัติวิชาชีพในแต่ละสาขา

เพื่อใช้ประเมินผลในการสอบเลื่อนระดับ และการออกใบรับรองความรู้ความชำานาญ ประสานงานกรรมการ

จรรยาบรรณในกรณีพิพาทและไกล่เกลี่ย ปรับปรุงระบบและข้อสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตระดับภาคีวิศวกร

โดยเน้นเรื่องการประเมินผลความสามารถของผู้สอบ”

สภาวิศวกรควรพิจารณาเพิ่มเติมข้อความท้ายประโยค เพื่อให้มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน ดังนี้ “ในการ

ประเมินปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ในการวัดผลการสอบสภาวิศวกรอาจผนวกกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจาก

กรณีพิพาทและไกล่เกลี่ยเข้าไปในการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตฯ ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ได้ใช้

เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเรียนรู้ เพื่อนำามาประกอบการประเมิน ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการเน้นเรื่อง

ยกระดับจรรยาบรรณวิชาชีพของวิศวกรเพื่อลดโอกาสในการเกิดกรณีพิพาทในลักษณะเช่นนี้ในอนาคต”

7.2 ในส่วนของแผนปฏิบัติการข้อ 3.6 สภาวิศวกรควรปรับแก้ข้อความจาก “ส่งเสริมการรับรอง

มาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพ (Code of Practices) มาตรฐานความประพฤติ (Code of Conducts) และ

มาตรฐานการให้บริการวิชาชีพ (Code of Services)” เป็น “กำากับดูแลการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติ

วิชาชีพ (Code of Practices) มาตรฐานความประพฤติ (Code of Conducts) และมาตรฐานการให้บริการ

วิชาชีพ (Code of Services)”

ผลการดำาเนินการ : คณะกรรมการสภาวิศวกร ในการประชุมครั้งที่ 10-10/2562 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562

รับทราบข้อสังเกตดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาปรับปรุงต่อไป

20

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร

8. กรณีการใช้ชื่อเรียกสภาวิศวกรในภาษาอังกฤษ คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรมีข้อสังเกตว่า

การใช้คำาว่า “Council of Engineers Thailand : COET” นั้น ขาดคำาบุพบทระหว่างคำาว่า Engineers กับ

Thailand ซึ่งผิดหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจฯ ขอเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

โดยอ้างอิงจากสภาวิชาชีพอื่น อาทิเช่น สภาทนายความ ใช้ชื่อ Lawyers Council Under the Royal

Patronage, สภาสถาปนิก ใช้ชื่อ Architect Council of Thailand และแพทย์สภา ใช้ชื่อ The Medical

Council of Thailand เป็นต้น คณะผู้ตรวจสภาวิศวกรจึงขอเสนอให้แก้ไขให้ถูกต้อง ดังนี้

8.1 Council of Engineers of Thailand: COET หรือ

8.2 Thai Council of Engineers: TCOE

ผลการดำาเนินการ : สภาวิศวกรอยู่ระหว่างการพิจารณา

2. ข้อสังเกตจากแผนการดำาเนินงานและงบประมาณประจำาปี 2562

สภาวิศวกรได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากข้อสังเกตของผู้ตรวจ ดังนี้

1. การส่งเสริมเพื่อให้สมาชิกสภาวิศวกรที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบ

อนุญาตฯ ได้หลายช่องทาง โดยใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดีย และ Social Media โดยมีข้อเสนอแนะแนวทางการ

ดำาเนินการ ดังนี้

1.1 สภาวิศวกรควรจัดทำาสกู๊ปหรือวีดีทัศน์ที่มีเนื้อหาสารที่มีประโยชน์ต่อสมาชิก โดยให้ใช้วิธีการถ่าย

ทำาที่ง่าย อาจจะถ่ายทำาภายในห้องที่จัดเตรียมไว้ แล้วนำาไฟล์ขึ้นช่อง YouTube หรือเพจ Facebook ของ

สภาวิศวกร

1.2 สภาวิศวกรควรจัดอบรมสัมมนาโดยมีการบันทึกภาพผ่าน Facebook life เพื่อให้สมาชิกสภา

วิศวกรสามารถเข้ามาชมและสอบถามได้ตามฐานเวลาจริงได้จากทุกที่ เพื่อเป็นการลดภาระการเดินทางของ

สมาชิกที่อยู่ต่างจังหวัด

ผลการดำาเนินการ : สภาวิศวกรกำาลังพิจารณาการจัดทำาคลิปเกี่ยวกับการจัดอบรม/สัมมนาต่าง ๆ เพื่อเผย

แพร่ทางสื่อ Social Media ของสภาวิศวกร ให้สมาชิกหรือผู้ที่สนใจสามารถรับชมย้อนหลังได้ โดยปัจจุบัน

สภาวิศวกรได้มีการบันทึกภาพการจัดสัมมนาผ่านทาง Facebook Live เพื่อให้สมาชิกหรือผู้ที่สนใจที่ไม่ได้เข้า

อบรมสามารถรับชมการจัดอบรม/สัมมนา ไปพร้อมกันได้

21

ปี 2562

2. การส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งบประมาณในการจัดอบรมสัมมนา ที่ได้รับงบประมาณที่เกี่ยวข้อง

กับการส่งเสริมการขอรับใบอนุญาตฯ เพื่อลดความซ้ำาซ้อนในการดำาเนินการโดยปรับการอบรมสัมมนาและงบ

ประมาณให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยใช้แนวทางตามข้อที่ 1 ประกอบ ทั้งนี้ ขอให้สภาวิศวกร

พิจารณาจัดทำาทั้งระดับภาคีวิศวกร ระดับสามัญวิศวกร ระดับวุฒิวิศวกร และระดับภาคีวิศวกรพิเศษ โดยอาจ

ทำาเป็นเทปบันทึกหลักการของทุกสาขา ซึ่งอาจแยกเป็นรายสาขาและแยกเป็นระดับ (ระดับภาคีวิศวกร ระดับ

สามัญวิศวกร และระดับวุฒิวิศวกร) ด้วยก็ได้

ผลการดำาเนินการ : สภาวิศวกรมีหลักเกณฑ์ในการจัดอบรม/สัมมนา ปี 2563

ซึ่งคณะอนุกรรมการแต่ละชุด จะจัดอบรม/สัมมนาได้ ไตรมาสละ 1 ครั้ง (4 ครั้ง/ปี) ตามความเหมาะสม

17 กุมภาพันธ์ 2563

รายงานโดยคณะผู้ตรวจสภาวิศวกร

• นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา

• นายบัณฑิต อัมพรศรีสุภาพ

• นายนพพร ลีปรีชานนท์

22

รายงานผู้ตรวจสภาวิศวกร