การพัฒนาหลักสูตรอบรมเพื่อ...

86
การพัฒนาหลักสูตรอบรมเพื ่อพัฒนาสมรรถนะไอซีที สาหรับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดนครนายก นายภานุวัฒน์ บุตรเรียง วิจัยนี ้เป็นส่วนหนึ ่งของโครงการเสริมสร้างสมรรถนะด้านไอซีที กิจกรรมที ่ 1 เพิ่มพูนความรู้ทักษะไอซีที สานักคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทวิโรฒ ปีการศึกษา 2555

Transcript of การพัฒนาหลักสูตรอบรมเพื่อ...

  • การพฒันาหลกัสตูรอบรมเพื่อพฒันาสมรรถนะไอซที ี

    ส าหรบัผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายก

    นายภานุวฒัน์ บุตรเรยีง

    วจิยันี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสรมิสรา้งสมรรถนะดา้นไอซที ี กจิกรรมที ่1 เพิม่พนูความรูท้กัษะไอซที ี

    ส านกัคอมพวิเตอร ์ มหาวทิยาลยัศรนีครนิทวโิรฒ ปีการศกึษา 2555

  • THE DEVELOPMENT OF COMPETENCY DEVELOPMENT INFORMATION

    COMMUNICATION TECHNOLOGY TRAINING CURRICULUM FOR COMMUNITY PRODUCT ENTREPRENEUR IN NAKORN-NAYOK PROVINCE

    Panuwat Butriang

    A Research Submitted in Partial Fulfillment of The Development Information Communication Technology (ICT) competency Project

    Computer Center, Srinakharinwirot University Academic Year 2012

  • ภานุวฒัน์ บตุรเรยีง. (2555). การพฒันาหลกัสตูรอบรมเพือ่พฒันาสมรรถนะไอซทีสี าหรบัผูป้ระกอบการ ผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายก. วจิยั. กรุงเทพ : มหาวทิยาลยัศรนีครนิทรวโิรฒ. 75 หน้า.

    การพฒันาหลกัสูตรอบรมเพื่อพฒันาสมรรถนะไอซทีสี าหรบัผู้ประกอบการผลติภณัฑ์ชุมชนจงัหวดันครนายก วตัถุประสงคเ์พื่อ 1) เพื่อพฒันาหลกัสตูรอบรมและเพื่อน าเสนอหลกัสตูรเพื่อพฒันาสมรรถนะไอซทีสี าหรบัผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายก กลุ่มตวัอย่าง คอื ผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายก จ านวน 13 กลุ่มผลติภณัฑ ์ขอบเขตการวจิยั เป็นหลกัสตูรการอบรมส าหรบักลุ่มผูดู้แลร้านออนไลน์ใน จงัหวดันครนายก เท่านัน้ วธิดี าเนินวจิยั โดยใช้รูปแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Saylor and Alexander (วชิยั วงษ์ใหญ่, 2537: 18) ประกอบดว้ย 4 ขัน้ตอน ดงันี้ ตอนท่ี 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ส่วนที ่1 การศกึษาเอกสาร งานวจิยัและความคดิเหน็ของผูเ้ชีย่วชาญและและแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะไอซีที ส่วนที่ 2 การส ารวจความต้องการพัฒนา (Need Assessment) ส่วนที่ 3 การศกึษาเอกสาร งานวิจยัที่เกี่ยวกบัองค์ประกอบและแนวคิดเกี่ยวกบัการพฒันาหลกัสูตรอบรม ตอนท่ี 2 การสร้างหลกัสูตรอบรม ประกอบด้วยขัน้ตอนย่อย ดงันี้ ส่วนที่ 1) การสร้างโครงร่างหลกัสูตรอบรม ส่วนที่ 2) การตรวจสอบโครงร่างหลกัสูตรอบรม โดยผู้เชี่ยวชาญจ านวน 3 ท่าน ส่วนที่ 3) การปรบัปรุงหลกัสตูรอบรมก่อนน าไปทดลองใช ้ตอนท่ี 3 การทดลองใช้หลกัสูตรอบรม น าหลกัสตูรอบรมไปทดลองใชก้บักลุ่มตวัอย่าง จ านวน 9 คน ระยะเวลาในการทดลองใชห้ลกัสูตรอบรม ผู้วจิยัได้ท าการทดลองใชห้ลกัสตูรอบรม รวม 12 ชัว่โมง เป็นเวลา 2 วนั ตอนท่ี 4 การปรบัปรงุหลกัสูตรอบรม

    ผลการวจิยั พบว่า โครงสร้างของหลกัสูตรตลาดออนไลน์ ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คอื 1) กลุ่มผูจ้ดัการรา้น 2) กลุ่มพฒันาและออกแบบผลติภณัฑ์ และ 3) กลุ่มผูดู้แลรา้นออนไลน์โดยรายวชิาส าหรบักลุ่มผูดู้แลรา้นออนไลน์ ประกอบดว้ย 2 หมวด ดงันี้ 1) หมวดวชิาบงัคบัจ านวน 9 หน่วยกติ 2) หมวดวชิาเลอืก จ านวน 3 หน่วยกติ ประกอบดว้ยหมวดวชิาบงัคบั จ านวน 9 หน่วยกติ ดงันี้ 1) วชิาความรู้พืน้ฐานเกีย่วกบัการตลาดออนไลน์ จ านวน 2 ชัว่โมง 2) วชิาการจดัการเวบ็ไซต์ส าหรบัตลาดออนไลน์ จ านวน 6 ชัว่โมง 3) วชิาความรูพ้ืน้ฐานดา้นฮารด์แวรแ์ละอนิเทอรเ์น็ต จ านวน 1 ชัว่โมง หมวดวชิาเลอืก จ านวน 3 หน่วยกติ 1) วชิาความรูพ้ืน้ฐานดา้นการถ่ายภาพสนิคา้ จ านวน 1.5 ชัว่โมง 2) วชิาความรู้พืน้ฐานดา้นตกแต่งภาพสนิคา้ จ านวน 1.5 ชัว่โมง ผลการประเมนิประสทิธภิาพของหลกัสตูรอบรม ผูเ้ขา้รบัการอบรมมผีลคะแนนหลงัการอบรมสงูกว่าก่อนการอบรมทุกกลุ่ม ผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนมีสมรรถนะไอซทีีโดยสร้างเวบ็ไซต์ได้ส าเรจ็คดิเป็น ร้อยละ 100 โดยเวบ็ไซต์มผีลการประเมนิระดบัสมบูรณ์ระดบัมากทีสุ่ด คดิเป็นรอ้ยละ 83 และผลประเมนิระดบัสมบูรณ์น้อยคดิเป็นรอ้ยละ การตดิตามผล ผูเ้ขา้รบัการอบรมมคีวามพงึพอใจในการฝึกอบรมระดบัดมีาก

  • กิตติกรรมประกาศ

    รายงานการวิจัยการพัฒนาหลักสูตรอบรมเพื่อพัฒนาสมรรถนะไอซีทีส าหรับผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายกฉบบันี้ส าเรจ็อย่างสมบูรณ์ไดด้้วยความกรุณาของ ดร.ขนิษฐา รุจโิรจน์ ผู้อ านวยส านักคอมพวิเตอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศิรนุิช เทยีนรุ่งโรจน์ ที่ให้ค าปรกึษาเกี่ยวกับการด าเนินงานทุกประการ ดร.อุราพร ศุขทตั อาจารย์รองผู้อ านวยการ ที่กรุณาร่วมพฒันาหลกัสูตรอบรมครัง้นี้ คณะวจิยัขอกราบพระคุณทุกท่านเป็นอยา่งสงู

    ขอกราบพระคุณส านักนวตักรรมการเรยีนรู ้ที่กรุณามอบวทิยากรคุณอธปิตัย ์สมทิทองค าที่เป็นวทิยากรด้านหวัขอ้ความรู้พื้นฐานการถ่ายภาพสนิค้าในครัง้นี้ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านหลกัสูตรและการสอน และผู้เชี่ยวชาญด้านวดัและประเมนิผลที่กรุณาเสยีสละเวลาในการประเมนิและตรวจสอบหลกัสตูรใหเ้ป็นอยา่งด ี

    ขอกราบพระคุณส านักพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงพาณิชย์ได้ให้วทิยากรและเวบ็ไซต์ www.dbdmart.com เพื่อใชเ้ป็นเครื่องมอืส าหรบัการจดัท าเป็นรา้นคา้ออนไลน์ใหก้บัผู้ประกอบผลติภณัฑช์ุมชุนทุกกลุ่ม

    ขอกราบพระคุณส านกัพฒันาการชุมชนจงัหวดันครนายก ผูป้ระสานงานหลกัทุกท่านขอกราบพระคุณอาจารยน์ิตตอ์ลนิ พนัธุอ์ภยั คณะวศิวกรรมศาสตร์ มหาวทิยาลยัศรนีครนิวโิรฒ ทีก่รณุาช่วยประสานงานกบักลุ่มผูป้ระกอบผลติภณัฑช์ุมชนทุกกลุ่ม จนท าใหไ้ดร้บัความร่วมมอืเป็นอยา่งดจีากทุกชุมชนและกลุ่มผลติภณัฑเ์ป็นอยา่งด ี

    ขอกราบเจา้หน้าทีส่ านกัคอมพวิเตอร ์ประสานมติรและองครกัษ์ทุกคนทีก่รุณาเอื้อเฟ้ือและช่วยเหลอืจดัเตรยีมสถานทีเ่ป็นอยา่งด ี

    สุดทา้ย ขอขอบคุณทุกคน ทีไ่ดม้สี่วนรว่มสรา้งสรรคก์ารวจิยัใหส้ าเรจ็ทุกประการ

    คณะผูว้จิยั

    http://www.dbdmart.com/

  • สารบญั

    บทท่ี หน้า บทคดัยอ่.................................................................................................................... ง กติตกิรรมประกาศ...................................................................................................... ฉ สารบญั...................................................................................................................... ช 1 บทน า..................................................................................................................... 1

    ภมูหิลงั............................................................................................................ 1 วตัถุประสงคก์ารวจิยั........................................................................................ 2 นิยามศพัทเ์ฉพาะ.............................................................................................. 2 กรอบแนวคดิในการวจิยั.................................................................................... 4 2 เอกสารและงานวิจยัท่ีเก่ียวข้อง........................................................................... 5 แนวคดิทฤษฎเีกีย่วกบัการพฒันาหลกัสตูร......................................................... 5 แนวคดิการฝึกอบรม......................................................................................... 25 แนวคดิสมรรถนะไอซที.ี................................................................................... 35 3 วิธีด าเนินการวิจยั................................................................................................. 40 ตวัแปรทีใ่ชใ้นการวจิยั....................................................................................... 40 วธิดี าเนินการวจิยั............................................................................................. 41 เครือ่งมอืทีใ่ชใ้นการวจิยั…………..................................................................... 42 4 ผลการวิจยั............................................................................................................. 49 ตอนที ่1 การศกึษาขอ้มลูพืน้ฐาน....................................................................... 50 ตอนที ่2 การสรา้งหลกัสตูรอบรม...................................................................... 51 ตอนที ่3 การทดลองใชห้ลกัสตูร.................................................................... ... 56 ตอนที ่4 การปรบัปรุงหลกัสตูร.......................................................................... 56 5 สรปุผลและข้อเสนอแนะ....................................................................................... 59 วตัถุประสงคก์ารวจิยั.......................................................................................... 59 วธิดี าเนินการวจิยั............................................................................................... 59 สรปุผลการวจิยั................................................................................................... 60 การอภปิรายผล.................................................................................................. 60 ขอ้เสนอแนะ....................................................................................................... 60 บรรณานุกรม............................................................................................................ 65 ภาคผนวก................................................................................................................. 67

  • สารบญัตาราง ตารางท่ี หน้า

    1 ผลการศกึษาความคดิเหน็ของผูเ้ชีย่วชาญทีม่ต่ีอวตัถุประสงคข์องหลกัสตูรอบรม 51 2 ผลการการศกึษาความคดิเหน็ของผูเ้ชีย่วชาญทีม่ต่ีอโครงสรา้งหลกัสตูร 52 3 ผลการศกึษาความคดิเหน็ของผูเ้ชีย่วชาญทีม่ต่ีอหลกัสตูรกลุ่มผูด้แูลรา้นออนไลน์ 55 4 รายชื่อเวบ็ไซตข์องรา้นคา้ออนไลน์ทุกกลุ่มผลติภณัฑ์ 57 5 การประเมนิผลรา้นคา้ออนไลน์ 58

  • สารบญัภาพ

    ภาพท่ี หน้า 1 ระบบการพฒันาหลกัสตูร 9 2 รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Tyler 11 3 รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Taba 13 4 รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Saylor and Alexander 14 5 วฏัจกัรของกระบวนการพฒันาหลกัสตูร 15 6 ความสมัพนัธข์ององคป์ระกอบทางการศกึษาในทศันะของ Tyler 19 7 ความสมัพนัธข์องขอ้มลูทีค่วรน ามาเป็นตวัพจิารณาในการประเมนิผล

    ตามทศันะของ Stake 21

    8 กระบวนการวเิคราะหข์อ้มลูเชงิบรรยาย 21 9 การวเิคราะหข์อ้มลูเชงิตดัสนิ 22 10 จดุเน้นของการประเมนิโดย CIPP Model 25 11 รปูแบบของสมรรถนะตามแนวคดิ Iceberg’s Competency Model 36

  • บทท่ี 1 บทน า

    ภมิูหลงั

    กรอบนโยบายเทคโนโลยสีารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย ระยะ พ.ศ. 2554-2563 ได้ก าหนดวสิยัทศัน์ใหป้ระเทศไทยเป็น”สงัคมอุดมปญัญา“ โดยใชป้รชัญาเศรษฐกจิพอเพยีง เพื่อใหส้งัคมพฒันาและใชเ้ทคโนโลยสีารสนเทศและการสื่อสาร ประชาชนทุกระดบัมคีวามเฉลยีวฉลาด (Smart) และรอบรูส้ารสนเทศ (Information literacy) สามารถเขา้ถงึการใช้สารสนเทศอย่างมคีุณธรรม จรยิธรรม มีวิจารณญาณและรู้เท่าทัน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสงัคม มีการบรหิารจดัการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มธีรรมาภิบาล (Smart Governance) โดยกรอบนโยบาย ดงักล่าวมีจดุประสงคเ์พื่อสนับสนุนการพฒันาสู่เศรษฐกจิและสงัคมฐานความรูแ้ละนวตักรรมอย่างยัง่ยนืและมัง่คงสอดคลอ้งกบัแผนกลยทุธก์ารพฒันาวทิยาศาสตรแ์ละเทคโนโลย ี(พ.ศ.2547-2556) ทีเ่น้นการบูรณาการวทิยาศาสตรแ์ละเทคโนโลยทีีร่ะบบเศรษฐกจิชุมชน และสงัคมไทย โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดงันี้ (1) การแข่งขนัทีย่ ัง่ยนื (2) เศรษฐกจิชุมชุน สนิคา้ OTOP (3) คุณภาพชวีติและสิง่แวดลอ้ม (4) สงัคมแห่งการเรยีนรู ้โดยประเดน็หลกัทีส่ าคญั คอื การสนบัสนุนการแขง่ขนัทีย่ ัง่ยนืของเศรษฐกจิชุมชน

    มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นับได้ว่าเป็นแหล่งของผู้รู้และผู้น าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยทีีจ่ะตอ้งเป็นทีพ่ึง่พาใหก้บัชุมชน จงึไดก้ าหนดยุทธศาสตร ์ที ่6 เพื่อส่งเสรมิการใชเ้ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรยีนรู้ร่วมกับสงัคมไว้ในแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ.2550-2554 โดยมเีป้าหมายเพื่อสรา้งโครงการบรกิารวชิาการเพิม่มากขึ้น โดยมคีวามหลากหลายและเข้าถึงความต้องการของสงัคมมากขึ้น ซึ่งในปี พ.ศ. 2553-2567 มหาวทิยาลยัไดบ้รรจุใหก้ารพฒันางานบรกิารวชิาการเพื่อพฒันาชุมชนและสงัคมอย่างยัง่ยนื (1 จงัหวดั 1 มหาวทิยาลยั) ไวใ้นแผนปฏบิตักิารยทุธศาสตรห์ลกั เพื่อสรา้งงานบรกิารวชิาการทีส่อดคลอ้งกบัความต้องการของชุมชนและสงัคมอย่างยัง่ยนื และร่วมขบัเคลื่อนพฒันาชุมชนและสงัคมให้มคีุณภาพที่ดขี ึน้อยา่งยัง่ยนื

    โครงการ Cyber Education Center ส านักคอมพวิเตอร ์มหาวทิยาลยัศรนีครนิทรวโิรฒ จึงจัดหลักสูตรฝึกอบรมในรูปแบบโครงการบริการวิชาการแก่ชุมชนแบบบูรณาการศาสตร ์ เพื่อมุ่งหมายให้เกิดการเสรมิสร้างสมรรถนะด้านไอซีทีเพื่อประชาชน การฝึกอบรมดงักล่าว จึงจ าเป็นต้องมีหลกัสูตรอบรมที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผลิตภณัฑ์ชุมชนจงัหวัดนครนายก เพื่อให้ผู้ประกอบการผลติภณัฑชุ์มชนเจา้ของความรูภู้มปิญัญาทอ้งถิน่ ผูถ่้ายทอดความรูใ้นระดบัชุมชน ผูท้ีเ่กีย่วขอ้งกบัผลติภณัฑช์ุมชน โครงการหนึ่งต าบลหนึ่งผลติภณัฑ ์และผูท้ีส่นใจ สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยสีารสนเทศ ส าหรบัเครื่องมอืบรหิารจดัการเว็บไซต์แบบอีคอมเมริ์ส เครื่ องมอืเครอืขา่ยทางสงัคม (Social Networking Tools) เพื่อใชส้ าหรบัการแลกเปลีย่นเรยีนรู ้การประชาสมัพนัธ ์

  • 2

    การเสรมิภาพลกัษณ์องคก์รและสนิคา้ อนัเป็นการส่งเสรมิการขาย การเพิม่ช่องทางการขายและกระจายสินค้า การต่อยอดทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและสารสนเทศอย่างเข้มแข็งและอย่างยัง่ยืน ด้วยกระบวนการด าเนินโครงการที่สอดคล้องกบัการประกนัคุณภาพภายในที่มุ่งเน้นให้เกิดคุณภาพ และสามารถน าองคค์วามรูท้ีไ่ดร้บัน าเสนอต่อประชาคมต่อไป

    วตัถปุระสงคข์องโครงการวิจยั 1) เพื่อพฒันาหลกัสตูรอบรมเพื่อพฒันาสมรรถนะไอซทีสี าหรบัผูป้ระกอบการผลติภณัฑ์ชุมชน

    จงัหวดันครนายก 2) เพื่อน าเสนอหลกัสตูรอบรมเพื่อพฒันาสมรรถนะไอซทีสี าหรบัผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชน

    จงัหวดันครนายก

    ขอบเขตของการวิจยั

    1) หลกัสตูรการอบรมครัง้นี้ มุง่พฒันาสมรรถนะไอซทีสี าหรบัผูป้ระกอบการเจา้ของภมูิปญัญาทอ้งถิน่ เจา้ของผลติภณัฑชุ์มชนทีไ่ดร้บัการขึน้ทะเบยีนกบัส านกัพฒันาชุมชน จงัหวดันครนายก เท่านัน้

    2) ในการส ารวจขอ้มลูพืน้ฐานตามขัน้ตอนการวจิยั ผูใ้หข้อ้มลูเกีย่วกบัสมรรถนะไอซทีีส าหรบัผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายก ไดแ้ก่ ผูเ้ชีย่วชาญทางดา้นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และพฒันาการชุมชนจงัหวดันครนายก เท่านัน้

    นิยามศพัทเ์ฉพาะ 1. เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ( Information and Communication Technologies : ICTs) หมายถึง เทคโนโลยสีองด้านหลัก ประกอบด้วย 1) เทคโนโลยรีะบบคอมพวิเตอร ์ และ 2) เทคโนโลยสีื่อสารโทรคมนาคม ทีผ่นวกเขา้ด้วยกนั เพื่อใชใ้นกระบวนการจดัหา จดัเก็บ สรา้ง และเผยแพร่สารสนเทศในรูปที่หลากหลาย เพื่อเพิม่ประสทิธภิาพ ความถูกต้อง ความแมน่ย า และความรวดเรว็ใหท้นัต่อการน าไปใชป้ระโยชน์

    2. สมรรถนะไอซีที หมายถงึ เป็นความสามารถในการเขา้ถงึ การประเมนิ การวเิคราะห ์สงัเคราะห ์และใชส้ารสนเทศไดอ้ยา่งมปีระสทิธภิาพ

  • 3

    ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รบั 1) ไดห้ลกัสตูรอบรมเพื่อพฒันาสมรรถนะไอซทีสี าหรบัผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายก 2) ผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายกมรีะดบัสมรรถนะไอซทีทีีเ่หมาะสมกบัการประกอบการ 3) ผูป้ระกอบการผลติภณัฑช์ุมชนจงัหวดันครนายกสามารถน าความรูไ้ปการประยกุตใ์ช้เทคโนโลย ีเพื่อการแลกเปลีย่นเรยีนรูป้ระสบการณ์ทางธุรกจิ การประชาสมัพนัธ ์การเพิม่มลูค่าสนิคา้ การเพิม่ช่องทางการกระจายและจ าหน่ายสนิคา้ส าหรบัผลติภณัฑใ์นชุมชนได้

  • 4

    รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Saylor and Alexander

    (วชิยั วงษใ์หญ่, 2537: 18)

    กรอบแนวคิดในการวิจยั

    ยุทธศาสตรก์ารพฒันางานบรกิารวชิาการเพื่อพฒันาชมุชนและสงัคมอย่างยัง่ยนื 1 จงัหวดั 1 มหาวทิยาลยั

    (แผนยุทธศาสตร ์มหาวทิยาลยันครนิทรวโิรฒ 15 ปี

    พ.ศ. 2553-2567)

    ยุทธศาสตร ์ที ่6 การสง่เสรมิการใช้เทคโนโลยสีารสนเทศและการสือ่สาร

    เพื่อเพิม่ศกัยภาพในการเรยีนรู ้ร่วมกบัสงัคม

    (แผนแมบ่ทเทคโนโลยสีารสนเทศและการสือ่สาร มศว พ.ศ. 2550-2554)

    ขัน้ตอนการท่ี 1 การศกึษาขอ้มลูพืน้ฐาน

    ขัน้ตอนการท่ี 2 การสรา้งหลกัสตูรอบรม

    ขัน้ตอนการท่ี 3 การทดลองใชห้ลกัสตูรอบรม

    ขัน้ตอนการท่ี 4 การปรบัปรุงหลกัสตูรอบรม

    รปูแบบการ

    ประเมนิหลกัสตูร ทัง้ระบบ (CIPP Model) (Phi Delta

    Kappa)

    หลกัสตูรอบรมเพื่อ พฒันา

    สมรรถนะไอซที ี ส าหรบั

    ผูป้ระกอบการ

    ผลติภณัฑ์ชุมชนจงัหวดั

    นครนายก

  • 5

    บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยัท่ีเก่ียวข้อง

    เอกสารที่เกี่ยวขอ้งในโครงการวจิยันี้มสีาระที่จ าแนกได้เป็น 3 ตอน ดงันี้

    ตอนที ่1 แนวคดิทฤษฎเีกีย่วกบัการพฒันาหลกัสตูร ตอนที ่2 การฝึกอบรม ตอนที ่3 สมรรถนะไอซที ี

    ตอนท่ี 1 แนวคิดทฤษฎีเก่ียวกบัการพฒันาหลกัสตูร

    1.1 ความหมายของหลกัสูตร ประวตัขิองค าว่าหลกัสูตร Wiles และ Bondi (2002: 5) ไดก้ล่าวไว้ว่า ค าว่า “หลกัสูตร”ได้น ามาใช้เป็นครัง้แรกที่ประเทศสก็อตแลนด์ในช่วงต้นปี 1820 แต่การใช้ค าว่าหลกัสูตรที่แพร่หลายโดยทัว่ไปนัน้เกดิขึน้ที่สหรฐัอเมรกิาในช่วง 100 ปีต่อมา ค าว่าหลกัสูตร หรอื curriculum มาจากภาษาลาตนิว่า currere ซึง่หมายถงึ การวิง่ จากนัน้ความหมายว่า the course of the race กลายมาเป็น the course of study ทีใ่ชก้นัในวงการศกึษา นกัหลกัสตูร ไดก้ล่าวถงึความหมายของหลกัสตูรไว ้ดงันี้ Bobbitt (1918 อ้างถงึใน Saylor, Alexander and Lewis 1981: 6) กล่าวถงึความหมายของหลกัสูตรว่า เป็นล าดบัของสิง่ทีเ่ดก็และเยาวชนต้องท าและไดร้บัประสบการณ์เพื่อพฒันาความสามารถเพื่อเตบิโตเป็นผูใ้หญ่ในอนาคต โดยกล่าวเพิม่เตมิว่า จุดมุ่งหมายของหลกัสูตรอยู่บนพืน้ฐานของทกัษะและความรูท้ีจ่ าเป็นส าหรบัวยัผูใ้หญ่ Caswell and Campbell (1930 อา้งถงึใน Ornstein and Hunkins, 2004: 11) กล่าวว่า หลกัสตูร คอื ประสบการณ์ทัง้หลายทีน่กัเรยีนไดร้บัจากการแนะน าของครู

    Saylor Alexander and Lewis (1981: 8) ใหค้วามหมายของหลกัสูตรว่าเป็นแผนในการจดัโอกาสการเรยีนรู้ให้บุคคลได้รบัการศึกษา และได้อธิบายเพิ่มเติมว่า แผนดงักล่าวเป็นความตัง้ใจ (intention) มากกว่าเป็นแผนด าเนินการ (blueprint) ครมูอือาชพีแปลงแผนหลกัสูตรใหเ้ป็นรปูธรรมผ่านการสอน และไดก้ล่าวเพิม่เตมิว่าแผนหลกัสตูรควรใหอ้สิระแก่ครใูนการรเิริม่สรา้งสรรค ์ Wiles และ Bondi (2002: 3) ใหค้วามหมายของหลกัสูตรว่าเป็นแผนส าหรบัการเรยีนรู ้ซึ่งประกอบดว้ย 2 มติ ิคอื วสิยัทศัน์และโครงสรา้ง วสิยัทศัน์ในหลกัสูตรเป็นผลจากขอ้สรุปเกี่ยวกบับุคคลและโลกในมุมมองที่กว้างขวางและเป็นจรงิ ซึ่งก็คือปรชัญานัน่เอง ความจรงิดงักล่าวถูกแปลงเป็นบทบาทของการศึกษาจากมุมมองเฉพาะ หลักสูตรแต่ละหลักสูตรจะบรรจุข้อสรุปคุณค่าเกี่ยวกับเป้าหมายของการศกึษาในสงัคม นอกจากน้ีหลกัสูตรยงับรรจุโครงสรา้งหรอืการจดัการพื้นฐานในการแปลงวสิยัทศัน์ทีเ่ป็นแผนไปสู่ประสบการณ์ส าหรบัผูเ้รยีน

  • 6

    Posner (2004: 5) กล่าวว่า มผีูน้ิยามความหมายของหลกัสูตรแตกต่างกนัออกไป บางคนเหน็ว่าหลกัสูตรเป็นจุดหมาย (ends) ของการศกึษา เช่น ผลของการเรยีนรู ้(learning outcomes) บางคนเหน็ว่าหลกัสตูรเป็นวธิกีาร (means) ในการศกึษา เช่น แผนการสอน ราชบณัฑติยสถาน (2551: 102) กล่าวถึงความหมายของหลกัสูตรไว้ในพจนานุกรมศพัท์ศกึษาศาสตร ์ว่า หลกัสตูร หมายถงึ แผนการจดัการศกึษาทีป่ระมวลประสบการณ์ กจิกรรมต่างๆ โดยมีองคป์ระกอบส าคญั ไดแ้ก่ ความมุ่งหมาย เนื้อหาสาระ การจดักจิกรรมเรยีนรู ้สื่อการเรยีนการสอน การวดัและประเมนิผลการเรยีนรู ้เพื่อใหผู้เ้รยีนมพีฒันาการต่างๆ ตามความมุง่หมายทีก่ าหนดไว้

    สุมติร คุณานุกร (2518: 1) ให้ความหมายของหลกัสูตรว่า โครงการให้การศกึษาเพื่อพฒันาผูเ้รยีนใหม้คีวามรู ้ความสามารถ และคุณลกัษณะสอดคลอ้งกบัความมุ่งหมายทางการศกึษาทีก่ าหนดไว ้หากเปรยีบความมุ่งหมายทางการศกึษาเป็นผลที่มุ่งหวงัแล้ว หลกัสูตรก็เปรยีบได้กบัมรรควธิทีี่จะน าความมุง่หมายดงักล่าวไปสู่ผลส าเรจ็ ธ ารง บวัศร ี(2542: 7-8) ใหค้วามหมายของหลกัสูตรว่า แผนซึง่ไดอ้อกแบบจดัท าขึน้เพื่อแสดงถงึจุดหมาย การจดัเนื้อหากจิกรรมและมวลประสบการณ์ในแต่ละโปรแกรมการศกึษา เพื่อให้ผู้ เรยีนมีพฒันาการในด้านต่างๆ ตามจุดหมายที่ได้ก าหนดไว ้และกล่าวเสรมิว่าหลกัสูตรเป็นเพยีงแผนซึ่งผู้น าหลกัสตูรไปใชต้อ้งอ่านแผนใหเ้ขา้ใจและแปลออกเป็นแผนปฏบิตัใิหเ้หมาะสมกบัสภาพแวดลอ้มของตน Ornstein and Hunkins (2004: 10-11) สรปุความหมายของหลกัสตูรไว ้ดงันี้ 1) หลกัสตูร หมายถงึ แผนส าหรบัปฏบิตักิารหรอืเอกสารทีเ่ป็นลายลกัษณ์อกัษร ซึง่รวมถงึยทุธศาสตรเพื่อน าไปสู่เป้าหมายทีพ่งึประสงค ์ 2) หลกัสตูร หมายถงึ ประสบการณ์ของผูเ้รยีนทัง้ในและนอกโรงเรยีน

    3) หลกัสตูร หมายถงึ ระบบในการตดิต่อด าเนินการกบับุคคล และหมายถงึ กระบวนการหรอืการจดัการเกีย่วกบับุคลากรและขัน้ตอนในการน าระบบนัน้ไปใช้

    4) หลกัสตูร หมายถงึ สาขาหนึ่งของการศกึษา ซึง่ประกอบดว้ยหลกักการพืน้ฐานและขอบเขตของความรู ้

    5) หลกัสตูร หมายถงึ เนื้อหาวชิา ซึง่แตกต่างกนัไปตามระดบัของการศกึษา สงดั อุทรานันท ์(2532: 9-16) สรปุความหมายของหลกัสตูรตามทีน่กัการศกึษาทางดา้น

    หลกัสตูรไดใ้หไ้ว ้โดยมจีดุเน้นทีแ่ตกต่างกนั ดงันี้ 1) หลกัสตูร คอื รายวชิาหรอืเนื้อหาสาระทีใ่ชส้อน ซึง่ครอบคลุมถงึกลุ่มของรายวชิาต่างๆ ทีน่ิสิ

    ตนิกัศกึษาจะตอ้งเรยีน เช่น หลกัสตูรบรหิารการศกึษา หลกัสตูรจติวทิยาการศกึษา เป็นตน้ 2) หลกัสตูร คอื มวลประสบการณ์ทีโ่รงเรยีนจดัใหแ้ก่เดก็ ซึง่ค่อนขา้งจะเป็นทีย่อมรบักนัมาก

    และส่วนประกอบของประสบการณ์นัน้ ประกอบดว้ยสิง่ต่อไปนี้ คอื ความคดิรวบยอด ทกัษะ กระบวนการส าหรบัการพจิารณาคุณค่าและการตดัสนิใจ กระบวนการทางสตปิญัญา และประสบการณ์ทางสุนทรยีศาสตร ์

  • 7

    3) หลกัสตูร คอื กจิกรรมการเรยีนการสอน เป็นการมองหลกัสตูรไปในลกัษณะของกจิกรรมทีค่รูและนกัเรยีนจดัขึน้

    4) หลกัสตูร คอื สิง่ทีส่งัคมคาดหมายหรอืมุง่หวงัจะใหเ้ดก็ไดร้บั ซึง่มลีกัษณะเดยีวกบัจดุมุง่หมายของการศกึษา

    5) หลกัสตูร คอื สื่อกลางหรอืวถิทีางทีจ่ะน าเดก็ไปสู่จุดหมายปลายทาง ซึง่รวมถงึการเรยีนในหอ้งเรยีน โครงการแนะแนวการบรหิารสุขภาพ การอยูค่่ายพกัแรก การศกึษาในหอ้งสมดุ และกจิกรรมอื่นๆ ทีเ่ป็นกจิกรรมนอกหลกัสตูร หรอืการเรยีนนอกหอ้งเรยีนอกีดว้ย

    6) หลกัสตูร คอื ขอ้ผกูพนัระหว่างนกัเรยีนกบัครแูละสิง่แวดลอ้มทางการเรยีน ซึง่คลา้ยกบัสญัญาทีน่กัเรยีนจะตอ้งปฏบิตัติามขอ้ตกลงทีไ่ดท้ าไวใ้หค้รบถว้น จงึจะถอืว่าส าเรจ็การศกึษา 7) หลกัสตูร คอื กระบวนการปฏสิมัพนัธร์ะหว่างนกัเรยีน คร ูและสิง่แวดลอ้มทางการเรยีน ซึง่หมายถงึความสมัพนัธท์ีเ่กดิขึน้พรอ้มๆ กนัระหว่าง ผู้เรยีน ผูส้อน และเนื้อหาสาระ ไมใ่ช่เกดิขึน้ทลีะขัน้ตอน 8) หลกัสตูรในความหมายอื่น เช่น หลกัสตูรหมายรวมถงึกจิกรรมทีอ่ยูน่อกหอ้งเรยีนหรอืกจิกรรมนอกหลกัสตูร นอกจากนี้ยงัรวมถงึหลกัสตูรอ าพราง (hidden curriculum) ซึง่ไดแ้ก่ ความรู้ความเขา้ใจ เจตคตแิละทกัษะ ซึง่เกดิขึน้โดยไมไ่ดค้าดหมายหรอืไมไ่ดว้างแผนไวล้่วงหน้า จากความหมายของหลกัสตูรทีก่ล่าวมาขา้งตน้ ผูว้จิยัใหค้วามหมายส าหรบังานวจิยันี้ว่าหลกัสตูร หมายถงึ แผนส าหรบัจดัประสบการณ์การเรยีนรูท้ีค่าดหวงัแก่ผูเ้รยีน เพื่อใหผู้เ้รยีนมคีวามรู ้ความสามารถ ทศันคต ิและพฤตกิรรมตามจดุมุง่หมายทีก่ าหนดไว ้

    1.2 องคป์ระกอบของหลกัสตูร นักพัฒนาหลกัสูตรได้ก าหนดว่าหลักสูตรประกอบด้วยสิ่งส าคัญพื้นฐาน 4 ประการ คือวตัถุประสงคห์รอืจุดประสงค์ของหลกัสูตร เนื้อหาวชิาหรอืประสบการณ์ การเรยีนการสอนหรอืการจดัประสบการณ์การเรยีนรู ้และการประเมนิผล ซึง่มรีายละเอยีดดงันี้ (Tyler, 1949; Taba, 1962: 10-11; Giles, McCutcheon, and Zechiel อา้งถงึใน Ornstein and Hunkins, 2004: 233) 1. วตัถุประสงค ์(Objective) หมายถงึ เป้าหมายของการเรยีนการสอน เป็นส่วนทีก่ าหนดคุณสมบตัหิรอืคุณลกัษณะทีต่อ้งการใหเ้กดิขึน้แก่ผูเ้รยีน วตัถุประสงคข์องหลกัสตูรแบ่งเป็น 4 ระดบั ดงันี้ 1.1 วตัถุประสงคข์องหลกัสตูร เป็นความตอ้งการหรอืเป้าหมายรวมของแต่ละหลกัสตูร 1.2 วตัถุประสงคข์องกลุ่มวชิาหรอืหมวดวชิา เป็นเป้าหมายของกลุ่มวชิาทีม่เีน้ือหาใกลเ้คยีงกนัทีต่อ้งการใหผู้เ้รยีนมคีวามรู ้ทกัษะ และความสามารถอยา่งไร 1.3 วตัถุประสงคข์องรายวชิา มจีุดมุง่หมายว่าตอ้งการใหผู้เ้รยีนไดร้บัอะไร 1.4 วตัถุประสงคเ์ชงิพฤตกิรรม เกีย่วขอ้งกบัพฤตกิรรมทีส่งัเกตและสามารถวดัไดอ้ยา่งเป็นรปูธรรม

  • 8

    2. เนื้อหา (Content) เป็นเครือ่งก าหนดขอบเขตและความเขม้ขน้ของสาระความรู ้ทกัษะ และประสบการณ์

    3. การเรยีนการสอน (Instructional activity) เป็นเครือ่งมอืในการพฒันาผูเ้รยีนใหบ้รรลุเป้าหมายในการเรยีนตามวตัถุประสงคข์องหลกัสตูร ปกตกิารสอนจะประกอบดว้ยส่วนส าคญั 2 ส่วน คอื

    3.1 สื่อการสอน หมายถงึ อุปกรณ์ทีช่่วยใหก้ารสอนด าเนินไปสู่เป้าหมายอยา่งมีประสทิธภิาพ

    3.2 วธิกีาร หมายถงึ เทคนิคทีใ่ชใ้นการถ่ายทอดความรู ้ทกัษะ เจตคต ิใหเ้ป็นไปอยา่งมีประสทิธภิาพและประสทิธผิล

    4. การประเมนิผล (Evaluation) การตรวจสอบผลการเรยีนการสอนว่าบรรลุตามวตัถุประสงค์ของหลกัสตูรหรอืไม ่ตอ้งปรบัปรงุหรอืแกไ้ขอยา่งไร เพื่อใหไ้ดผ้ลลพัธเ์ป็นไปตามความตอ้งการทีแ่ทจ้รงิของหลกัสตูร

    1.3 การพฒันาหลกัสตูร Saylor and Alexander (1974: 7) ใหค้วามหมายว่า การพฒันาหลกัสูตร หมายถงึ การจดัท า

    หลกัสตูรเดมิทีม่อียูแ่ลว้ใหด้ขีึน้ หรอืเป็นการจดัท าหลกัสตูรใหม่โดยไม่มหีลกัสูตรเดมิอยู่ก่อน การพฒันาหลกัสตูร อาจหมายรวมถงึการสรา้งเอกสารอื่นๆ ส าหรบัผูเ้รยีนดว้ย

    สงดั อุทรานันท ์(2532: 30-36) กล่าวว่า การพฒันาหลกัสตูรมคีวามหมาย 2 ลกัษณะ คอื 1) การท าหลกัสตูรทีม่อียูแ่ลว้ใหด้ขีึน้หรอืสมบูรณ์ขึน้ 2) การสรา้งหลกัสตูรขึน้มาใหม ่โดยไม่มหีลกัสตูรเดมิเป็นพืน้ฐานอยูเ่ลย โดยระบบการพฒันาหลกัสตูรประกอบดว้ยระบบยอ่ยทีส่ าคญั 3 ระบบ คอื

    1. ระบบการร่างหลกัสตูร ประกอบดว้ยขัน้ตอนต่างๆ คอื วเิคราะหข์อ้มลูพืน้ฐาน ก าหนดจดุมุง่หมาย คดัเลอืกและจดัเนื้อหาสาระ ก าหนดวธิกีารประเมนิผล อาจมกีารทดลองใชห้ลกัสตูร ประเมนิหลกัสตูรทีส่รา้งเสรจ็แลว้ และการปรบัปรงุหลกัสตูรก่อนทีจ่ะน าไปใช้

    2. ระบบการใชห้ลกัสตูร ประกอบดว้ยขัน้ตอนต่างๆ คอื จดัท าเอกสารประกอบหลกัสตูร เตรยีมบุคลากร บรหิารและบรกิารหลกัสตูร ด าเนินการสอนตามหลกัสตูร และนิเทศการใชห้ลกัสตูร

    3. ระบบการประเมนิผลหลกัสตูร ประกอบดว้ยกจิกรรมทีส่ าคญั 2 ลกัษณะ คอื การประเมนิผลสมัฤทธิข์องหลกัสตูร และการประเมนิระบบหลกัสตูรทัง้หมด

  • 9

    แผนภาพที ่1 ระบบการพฒันาหลกัสตูร (สงดั อุทรานนัท,์ 2532: 35)

    ธ ารง บวัศร ี(2542: 7-8) กล่าวว่าการออกแบบหลกัสตูรตอ้งค านึงถงึพฒันาการของผูเ้รยีนในดา้นต่างๆ สภาพแวดลอ้มทีอ่ยูร่อบตวัผูเ้รยีนทัง้ดา้นเศรษฐกจิ สงัคม การเมอืงและวฒันธรรม และการพฒันาหลกัสตูรตอ้งอาศยัความรว่มมอืจากผูม้ปีระสบการณ์หลายฝา่ย ไมใ่ช่เป็นการกระท าของผูห้น่ึงผูใ้ดหรอืกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยเฉพาะ

    การพฒันาหลกัสตูรอบรม ในงานวจิยันี้ เป็นการสรา้งหลกัสตูรอบรมทีเ่น้นการก าหนดจดุมุง่หมายของหลกัสตูร โดยศกึษาพจิารณาขอ้มลูทีเ่กี่ยวขอ้ง คอื ความตอ้งการของสงัคม ซึง่น าไปสู่กระบวนการคดัเลอืกเนื้อหาสาระ ประสบการณ์การเรยีนรู ้การน าหลกัสตูรไปใชแ้ละการประเมนิผลหลกัสตูร

    ข้อมูลพืน้ฐาน - ประวตัแิละปรชัญาการศกึษา - สงัคมและวฒันธรรม - ความรูเ้กีย่วกบัผูเ้รยีน - ทฤษฎกีารเรยีนรู ้- ธรรมชาตขิองเน้ือหาสาระ

    ระบบการรา่งหลกัสูตร - วเิคราะหข์อ้มลูพืน้ฐาน - ก าหนดจุดมุ่งหมายของหลกัสตูร - คดัเลอืกและจดัเนื้อหาสาระ - ก าหนดวธิกีารประเมนิผล - (อาจจะ) ทดลองใชห้ลกัสตูร - ประเมนิหลกัสตูรก่อนการน าไปใช ้- การปรบัปรุงหลกัสตูรก่อนการน าไปใช ้

    ระบบการใช้หลกัสูตร - จดัท าเอกสารประกอบหลกัสตูร - เตรยีมบุคลากร - บรหิารและบรกิารหลกัสตูร - ด าเนินการสอนตามหลกัสตูร - นิเทศการใชห้ลกัสตูร

    ระบบการประเมินหลกัสูตร - ประเมนิผลสมัฤทธิข์องหลกัสตูร - ประเมนิระบบหลกัสตูร

    การปรบัปรงุแก้ไข

  • 10

    1.4 รปูแบบการพฒันาหลกัสตูร รปูแบบการพฒันาหลกัสูตรของ Tyler Tyler (1950 อา้งถงึใน สงดั อุทรานนัท์, 2532:36-37) ไดเ้สนอรปูแบบของการพฒันาหลกัสตูร

    โดยตัง้เป็นค าถามไว ้4 ขอ้ ดงันี้ 1. มวีตัถุประสงคท์างการศกึษาอะไรบา้ง ทีโ่รงเรยีนจะตอ้งใหเ้ดก็ไดร้บั 2. มปีระสบการณ์ทางการศกึษาอะไรบา้ง ทีจ่ะท าใหบ้รรลุวตัถุประสงคเ์หล่านี้ 3. จะจดัประสบการณ์ทางการศกึษาเหล่านี้ใหม้ปีระสทิธภิาพไดอ้ย่างไร 4. จะพจิารณาไดอ้ยา่งไรว่าวตัถุประสงคท์ีก่ าหนดไวน้ัน้ไดบ้รรลุแลว้

    Tyler (1950 อ้างถงึใน วชิยั วงษ์ใหญ่, 2537: 11-13) มคีวามเหน็ว่าในการพฒันาหลกัสูตรนัน้ ควรตอบค าถามที่เป็นพื้นฐาน 4 ประการใหไ้ดเ้สยีก่อน และจะต้องถามเรยีงกนัลงมาตามล าดบั ฉะนัน้การก าหนดจดุมุง่หมายในขอ้แรกจงึส าคญัทีสุ่ด เนื่องจากค าถามอกี 3 ขอ้นัน้ขึน้อยู่กบัจุดมุ่งหมายในขอ้แรก นัน่คอืท าให้เกดิการก าหนดประสบการณ์ทางการศกึษา การจดัประสบการณ์ทางการศกึษาให้แก่ผูเ้รยีน และการประเมนิผลของหลกัสตูร

    ลกัษณะเด่นของการพฒันาหลกัสูตรของ Tyler คอื การใช้จุดมุ่งหมายเป็นตวัก าหนด ควบคุมการเลอืก และจดัประสบการณ์การเรยีน ดงันัน้การก าหนดจุดมุ่งหมายจงึม ี2 ขัน้ตอน ขัน้แรก คอื ก าหนดจดุมุง่หมายชัว่คราวขึน้มาก่อน แลว้หาวธิกีารและเกณฑจ์ากทฤษฎกีารเรยีนรู ้ปรชัญาการศกึษา และปรชัญาสงัคม มากลัน่กรองจุดมุ่งหมายชัว่คราวนัน้ เพื่อใหไ้ดเ้ป็นจุดมุ่งหมายทีแ่ทจ้รงิของหลกัสูตร จากนัน้จงึเลอืกและจดัประสบการณ์ทางการศึกษาหรอืประสบการณ์การเรยีนรู้ส าหรบัผู้เรยีนเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ก าหนดขึ้น จากนัน้ท าการประเมนิหลกัสูตร เพื่อตรวจสอบว่าการจดัการเรยีนการสอนได้บรรลุตามจุดมุ่งหมายทีก่ าหนดไวห้รอืไม่ สมควรมกีารปรบัแก้ในส่วนใดบ้าง รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Tyler สามารถสรปุไดด้งัแผนภาพต่อไปนี้

  • 11

    แผนภาพที ่2 รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Tyler

    การศกึษาสงัคม

    การศกึษาผูเ้รยีน

    การศกึษาแนวคดิของนกัวชิาการ

    ปรชัญาสงัคม

    ปรชัญาการศกึษา

    แหล่งขอ้มลูเพื่อน ามาก าหนดจดุมุง่หมายชัว่คราว

    หมา

    ก าหนดจดุมุง่หมายชัว่คราว

    จดุมุง่หมาย ทฤษฎกีารเรยีนรู ้

    ปรชัญาการศกึษา

    ปรชัญาสงัคม

    ขอ้มลูในการก าหนดเกณฑ ์ทีต่รวจสอบพจิารณากลัน่กลอง

    เป็นจุดมุง่หมายจรงิ

    การเลอืกและการจดัประสบการณ์การเรยีนการสอน องคป์ระกอบของหลกัสตูร

    การประเมนิผล

  • 12

    รปูแบบการพฒันาหลกัสูตรของ Taba Taba (1962) เสนอแนวคดิในการพฒันาหลกัสตูรคลา้ยกบัแนวคดิการพฒันาหลกัสูตรของ Tyler แต่ในขณะที ่Tyler ใหค้วามส าคญัต่อการก าหนดจดุมุง่หมายของหลกัสตูรซึง่เป็นหลกัในการเลอืกและจดัประสบการณ์การเรยีนรูแ้ละประเมนิผล Taba กลบัใหค้วามส าคญัต่อการคดัเลอืกและการจดัเนื้อหาสาระและประสบการณ์ และเชื่อว่าหลกัสตูรควรไดร้บัการออกแบบและพฒันาโดยผูใ้ช ้ซึง่คอืครผููส้อน โดยครูจะค่อยๆ สรา้งหลกัสตูรจากหน่วยการเรยีนการสอนยอ่ยๆ ส าหรบัการสอนในโรงเรยีน แลว้ค่อยปรบัขยายเป็นหลกัสตูร ซึง่เป็นการพฒันาจากสิง่ทีเ่ฉพาะเจาะจง แลว้ขยายสู่สิง่ทีก่วา้งขึน้

    Taba (1962) เสนอกระบวนการพฒันาหลกัสตูรโดยประกอบดว้ยกระบวนการ 7 ขัน้ตอนดงันี้ 1. วเิคราะหค์วามตอ้งการ โดยการวเิคราะหห์าช่องว่าง จดุบกพรอ่ง สภาพปญัหา ความตอ้งการ และความจ าเป็นต่างๆ ของสงัคมและผูเ้รยีน 2. ก าหนดจดุมุง่หมาย หรอืเป้าหมาย หรอืจดุหมายของหลกัสตูร 3. คดัเลอืกเนื้อหาสาระ โดยใหส้อดคลอ้งกบัจดุมุง่หมายทีก่ าหนด วยั ความสามารถของผูเ้รยีน โดยเนื้อหาสาระตอ้งมคีวามเชื่อถอืได ้และส าคญัต่อการเรยีนรูข้องผูเ้รยีนดว้ย 4. จดัรวบรวมเนื้อหาสาระ หรอืเรยีงล าดบัเนื้อหา ตอ้งค านึงถงึความต่อเนื่อง ความยากงา่ยของเนื้อหา วุฒภิาวะ ความพรอ้ม และความสนใจของผูเ้รยีน 5. คดัเลอืกประสบการณ์การเรยีนรู ้เพื่อใหผู้เ้รยีนไดเ้รยีนรูเ้นื้อหาทีก่ าหนด ผูส้อนหรอืผูท้ี่เกีย่วขอ้งตอ้งเป็นผูก้ าหนดกจิกรรมการเรยีนการสอนใหส้อดคลอ้งกบัเนื้อหาวชิา และจดุมุ่งหมายของหลกัสตูร 6. จดัประสบการณ์การเรยีนรู ้ตอ้งค านึงถงึเนื้อหาสาระ ล าดบัขัน้ตอน ความต่อเนื่อง โดยบรูณาการมวลความรูต่้างๆ เพื่อใหเ้กดิประสทิธผิลแก่ผูเ้รยีนมากที่สุด 7. ก าหนดรปูแบบการประเมนิผลตามจดุมุง่หมาย โดยตอ้งตดัสนิว่าตอ้งการประเมนิอะไร เพื่อตรวจสอบว่าหลกัสตูรทีพ่ฒันาขึน้บรรลุตามจดุมุง่หมายหรอืไม ่และก าหนดดว้ยว่าจะใชว้ธิปีระเมนิผลอยา่งไร ใชเ้ครือ่งมอือะไรในการประเมนิ

    วชิยั วงษ์ใหญ่ (2537: 15-17) กล่าวถงึการพฒันาหลกัสตูรของ Taba ว่าจะเริม่จากจดุใดจดุหนึ่ง

    ก่อนกไ็ดต้ามทีถ่นดัและสนใจ แต่เมือ่เริม่ทีจ่ดุใดแลว้จะตอ้งท าการศกึษาใหค้รบกระบวนการทัง้ 7 ของแนวคดิทีเ่สนอไว ้

    จดุเด่นของการพฒันาหลกัสูตรของ Taba คอืเรือ่งกลยทุธก์ารสอน (Teaching Strategies) และประสบการณ์การเรยีนรู ้(Learning Experiences) เป็นกระบวนการทีต่อ้งค านึงถงึอยู่ 2 ประการ คอื

    1. กลยทุธก์ารสอนและประสบการณ์การเรยีนรู ้จะเป็นเครือ่งก าหนดสถานการณ์ เงื่อนไขการเรยีนรู ้การจดักจิกรรมการเรยีนการสอนแต่ละครัง้จะมวีตัถุประสงคเ์กีย่วกบัการเรยีนรูท้ีเ่กดิขึน้เป็นผลผลติ ดงันัน้การจดัรปูแบบของเรยีนการสอนกจ็ะตอ้งแสดงล าดบัขัน้ตอนของการเรยีนรูด้ว้ย

  • 13

    2. หน้าทีข่องกลยทุธก์ารสอน เป็นสิง่ทีห่ลอมรวมหลายสิง่หลายอยา่งเขา้มาไวด้ว้ยกนัซึง่เป็นกระบวนการทีซ่บัซอ้น ดงันัน้การพจิารณาตดัสนิใจเกีย่วกบักลยทุธก์ารสอนควรค านึงถงึสิง่ต่อไปนี้

    การจดัเนื้อหา จะต้องก าหนดใหช้ดัเจนว่ารายวชิานัน้ๆ มุ่งใหผู้เ้รยีนเรยีนรูแ้บบใด กวา้งหรอืลกึมากน้อยเพียงใด และได้เรยีงล าดับเนื้อหาวิชาไว้อย่างไร การก าหนดโครงสร้างได้กระท าชดัเจนสอดคล้องกบัโครงสร้างในระดบัใด เพราะแต่ละระดบัจะมจีุดประสงค์เนื้อหาสาระที่มคีวามเกี่ ยวข้องสมัพนัธก์นั

    หน่วยการเรยีน จะมคีวามสอดคล้องกบัวตัถุประสงค์ที่บ่งชี้ถงึการวดัและประเมนิได้ชดัเจน มีการเสนอรายละเอยีดและมคีวามยดืหยุ่นเพื่อเปิดโอกาสให้ครูและผู้เรยีนมสี่วนร่วมในการวางแผนการเรยีนและท ากจิกรรมตามความต้องการและความสนใจตามลกัษณะเฉพาะ นอกจากนัน้การตรวจสอบความรูพ้ืน้ฐานของผูเ้รยีน จะช่วยใหผู้เ้รยีนไดเ้รยีนรูใ้นการพฒันากระบวนการเรยีนไดเ้ป็นล าดบัขัน้ตอนเพื่อน าไปสู่ขอ้ค้นพบ ขอ้สรุปที่เป็นหลกัการที่มุ่งเน้นความคาดหวงัเกี่ยวกบัการเรยีนรู้ที่จะเกิดขึ้นกบัผูเ้รยีน และการกระตุน้ใหผู้เ้รยีนเกดิกระบวนการทางความคดิทีต่่อเนื่องรวมทัง้การสบืเสาะหาความรูไ้ด้ดว้ยตนเอง รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Taba สามารถสรุปไดด้งัแผนภาพต่อไปนี้

    แผนภาพที ่3 รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Taba

    วเิคราะหค์วามตอ้งการนกัเรยีนและสงัคม

    ก าหนดจุดมุง่หมาย

    การคดัเลอืกเน้ือหาสาระ

    การจดัรวบรวมเน้ือหาสาระ

    การคดัประสบการณ์การเรยีนรู ้

    การจดัประสบการณ์การเรยีนรู ้

    การประเมนิผลเพื่อตรวจสอบกจิกรรมและระสบการณ์การเรยีนทีจ่ดัไวบ้รรลุตามจุดมุ่งหมาย

    หรอืไม่ รวมทัง้วธิกีารประเมนิผล

  • 14

    รปูแบบการพฒันาหลกัสูตรของ Saylor and Alexander สงดั อุทรานันท ์(2530: 115-116) วชิยั วงษ์ใหญ่ (2537: 18) และใจทพิย ์เชือ้รตันพงษ์

    (2539: 20-23) กล่าวถงึรปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Saylor and Alexander สรปุไดด้งันี้ Saylor and Alexander เห็นว่าแนวคดิในการพฒันาหลกัสูตรของ Tyler และ Taba

    มจีุดอ่อนในเรื่องการตอบสนองความต้องการของผู้เรยีนเป็นรายบุคคลที่มน้ีอยเกินไป Saylor and Alexander จงึไดน้ าแนวความคดิดงักล่าวมาปรบัปรุงและพฒันารูปแบบการพฒันาหลกัสูตร โดยวธิกีารส ารวจความต้องการของผู้เรยีนและสงัคม แล้วจงึตัดสินใจว่าจะพฒันาหลกัสูตรอย่างไร และมกีารตรวจสอบ การใหข้อ้มูลยอ้นกลบัเพื่อการปรบัปรุงเพื่อใหส้ามารถสนองความต้องการของผูเ้รยีนใหม้ากขึน้ ไดก้ระบวนการพฒันาหลกัสตูร ดงันี้

    1. ก าหนดเป้าหมายและจดุมุง่หมายของหลกัสตูร โดยศกึษาพจิารณาขอ้มลูทีเ่กี่ยวขอ้ง ไดแ้ก่ ความตอ้งการของสงัคม ผูเ้รยีน ผลการวจิยั ปรชัญาการศกึษา

    2. การออกแบบหลกัสตูร โดยเลอืกและจดัเนื้อหาสาระทีส่อดคลอ้งกบัมุง่หมายของหลกัสตูร เลอืกประสบการณ์การเรยีนรูท้ีเ่หมาะสมและสอดคลอ้งกบัเนื้อหาสาระทีไ่ดเ้ลอืกมาแลว้ 3. การใชห้ลกัสตูร เป็นการน าหลกัสตูรไปใชโ้ดยครเูลอืกวธิกีารสอนและสื่อการเรยีนรูเ้พื่อจดัท าแผนการสอนใหเ้กดิการเรยีนรูต้ามเป้าหมายตามจดุหมายทีก่ าหนดไว ้ 4. การประเมนิผลหลกัสตูร เพื่อตรวจสอบว่าบรรลุผลตามเป้าหมายหรอืจดุมุง่หมายทีก่ าหนดไว้หรอืไม ่โดยการประเมนิควรเน้นทีก่ารประเมนิหลกัสตูร คุณภาพของการสอน และพฤตกิรรมการเรยีนของผูเ้รยีน เพื่อหาขอ้มลูไวป้รบัปรงุหลกัสูตรต่อไป

    แผนภาพที ่4 รปูแบบการพฒันาหลกัสตูรของ Saylor and Alexander (อา้งถงึใน ใจทพิย ์เชือ้รตันพงษ์, 2539: 23)

    เป้าหมายจดุมุ่งหมายและ

    ขอบเขต

    การออกแบบหลกัสูตร

    ตดัสนิใจเลอืกคุณลกัษณะทีด่ขีองหลกัสตูร เช่น เนื้อหาสาระ การจดัหลกัสตูรและโอกาสการเรยีนรู้ทีเ่หมาะสม

    การใช้หลกัสูตร (การสอน)

    วางแผนและจดัท าแผนการสอน ตดัสนิใจเลอืกวธิกีารสอนและวสัดุสือ่การเรยีนการสอนต่างๆ ที่จะชว่ยใหผู้เ้รยีนเกดิการเรยีนรู ้

    การประเมินผลหลกัสูตร

    ตดัสนิใจเลอืกวธิกีารวดัและประเมนิประสทิธผิลของหลกัสตูร ขอ้มลูจากการประเมนิผลจะเป็นฐานในการพจิารณาวางแผนและปรบัปรุงแกไ้ขหลกัสตูรต่อไป

    ตรวจสอบยอ้นกลบัและปรบัปรงุ

  • 15

    กระบวนการพฒันาหลกัสูตรของ สงดั อทุรานันท์ สงดั อุทรานันท ์(2532: 38-43) จดัล าดบัขัน้ตอนของการพฒันาหลกัสตูรไวด้งันี้

    1. การวเิคราะหข์อ้มลูพืน้ฐาน 2. การก าหนดจดุมุง่หมาย 3. การคดัเลอืกและจดัเนื้อหาสาระ 4. การก าหนดมาตรการวดัและการประเมนิผล 5. การน าหลกัสตูรไปใช้ 6. การประเมนิผลการใชห้ลกัสตูร 7. การปรบัปรงุแกไ้ขหลกัสตูร

    กระบวนการพฒันาหลกัสตูรดงักล่าวมคีวามต่อเนื่องสมัพนัธก์นัอยา่งเป็นวฏัจกัร แสดงดงัแผนภาพต่อไปนี้

    แผนภาพที ่5 วฏัจกัรของกระบวนการพฒันาหลกัสตูร (สงดั อุทรานันท,์ 2532: 39)

    1.5 การประเมินหลกัสตูร

    การประเมนิหลกัสตูรเป็นกระบวนการพจิารณาทบทวนคุณภาพ ประสทิธภิาพ ตดัสนิคุณค่าและความส าเรจ็ของหลกัสตูรอย่างเป็นระบบ โดยก าหนดมาตรฐาน เกบ็รวบรวมขอ้มลู ประมวลผลขอ้มลู และน ามาตรฐานมาตดัสนิคุณภาพของหลกัสตูร (Longstreet and Shane, 1993: 8; Sowell, 1996: 257; Payne, 1974:11; วชิยั วงษ์ใหญ่, 2537: 217)

    7. การปรบัปรุงแกไ้ขหลกัสตูร

    1.วเิคราะห์ขอ้มลูพืน้ฐาน

    2. การก าหนด

    จุดมุง่หมาย

    3. การคดัเลอืกและจดัเนื้อหาสาระ

    4. การก าหนดมาตรการวดัและการ

    ประเมนิผล

    6. การประเมนิผลการใช้หลกัสูตร

  • 16

    จดุมุ่งหมายของการประเมินหลกัสตูร ในการประเมนิหลกัสตูรมจีดุมุง่หมายในการประเมนิดงัที ่นิศารตัน์ ศลิปเดช (2536: 79) กล่าวถงึจดุมุง่หมายของการประเมนิหลกัสตูร ดงันี้ 1. เพื่อพจิารณาตดัสนิคุณค่า หรอืคุณภาพของหลกัสตูรทีไ่ดร้บัการออกแบบหรอืพฒันาขึน้ โดยพจิารณาว่าหลกัสตูรสามารถท าใหห้ลกัการและจดุมุง่หมายทีก่ าหนดไวบ้รรลุผลส าเรจ็ได้หรอืไม่ 2. เพื่อคน้หาขอ้บกพรอ่งของหลกัสตูร ทัง้ในดา้นตวัเอกสารหลกัสตูรทีก่ าหนดหลกัการจดุมุง่หมาย และโครงสรา้งของเนื้อหาสาระ ตลอดจนส่วนทีเ่ป็นกระบวนการของการน าหลกัสตูรไปใช ้ซึง่ครอบคลุมการบรหิารและบรกิารหลกัสตูร การจดัการเรยีนการสอน การวดั และประเมนิผล ฯลฯ 3. เพื่อประเมนิผลสมัฤทธิข์องผูเ้รยีน ซึง่หมายถงึ ผลลพัธข์องหลกัสตูรทีเ่กดิขึน้กบันกัเรยีนว่าเป็นไปตามเป้าหมายของหลกัสตูรหรอืไม ่มากน้อยเพยีงใด สิง่ทีต้่องประเมิน หลกัสตูรประกอบดว้ยองคป์ระกอบต่างๆ หลายองคป์ระกอบ ดงันัน้ในการประเมนิหลกัสตูรจงึตอ้งประเมนิสิง่ต่างๆ ดงัที ่สงดั อุทรานันท ์(2532: 279-280) และใจทพิย ์เชือ้รตัน พงษ์ (2539: 195-197) ไดก้ล่าวว่าการประเมนิหลกัสตูรประกอบดว้ยการประเมนิสิง่ต่อไปนี้

    1) การประเมนิเอกสารหลกัสูตร เป็นการตรวจสอบคุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ ของหลกัสูตรว่าจุดหมาย จุดประสงค์ โครงสร้าง เนื้อหาสาระ และวธิีการวดัประเมนิผลนักเรยีน มคีวามสอดคลอ้ง เหมาะสม ครอบคลุม และถูกต้องตามหลกัการพฒันาหลกัสูตรเพยีงใด ภาษาทีใ่ชส้ามารถสื่อให้เขา้ใจและชดัเจนหรอืไม่ เหมาะสมกบัผู้เรยีน และสามารถสนองความตอังการของสงัคมและผู้เรยีนมากน้อยเพยีงใด หากมสีิง่ใดบกพร่องจะได้ด าเนินการปรบัปรุงแก้ไขก่อนที่จะน าไปประกาศใช้ การประเมนิเอกสารหลกัสตูรมกัใชว้ธิกีารวเิคราะหเ์นื้อหา (Content Analysis) และใหผู้เ้ชีย่วชาญด าเนินการประเมนิ 2) การประเมินการใช้หลักสูตร เป็นการตรวจสอบว่าหลักสูตรสามารถน าไปใช้ได้ดีกับสถานการณ์จรงิเพียงใด มปีญัหาอุปสรรคใดในการใช้หลกัสูตร หากพบข้อบกพร่องระหว่างการใช้หลกัสูตร มกัจะได้รบัการแก้ไขโดยทนัทีเพื่อให้การใช้หลกัสูตรเป็นไปอย่างมปีระสิทธิภาพ วิธีการประเมนิอาจใชก้ารสงัเกต สมัภาษณ์ และแบบสอบถามผูใ้ช ้คอื คร ูผูบ้รหิาร ผูเ้รยีน ผูป้กครอง 3) การประเมินสัมฤทธิผลของหลักสูตร เป็นการตรวจสอบสัมฤทธิผลของผู้เรียนที่ส าเร็จการศึกษาจ